การใช้ฟังค์แบคกับไรไข่ปลา

[Rachya D]

เรียนอ.อานนท์กับคุณไผ่ค่ะ
ดิฉัน รัชญา ค่ะ ได้ซื้อสารฟังแบคคิวไปใช้ในโรงเรือนเพาะเห็ดขอนขาว ที่ร้อยเอ็ดนะค่ะ ใช้ตั้งแต่เปิดดอกใหม่ๆตามคำแนะนำของทางร้านคือเช้า-เย็น หลังรดน้ำ อาทิตย์ละ3ครั้งค่ะใช้มาประมาณ 1 เดือน ตอนได้พบว่ามีไรไข่ปลาระบาดขึ้นมาค่ะดิฉันได้คัดแยกออกมาได้ประมาณ60-70ก้อน จากจำนวน4000ก้อน ค่ะ ดิฉันอยากทราบว่าแค่ฟังแบคคิวอย่างเดียวจะสามารถยับยั้งไรไข่ปลาได้ใหมค่ะ ตอนนี้ฉีดพ่นทุกวันๆละ2ครั้งเช้า-เย็น


ขอบพระคุณค่ะ
รัชญา

[นายหมูคนเมืองแพ]

โอ้โห..เจอศึกหนักเลย...ผมเจอเหมือนกัน..แต่ก็ยังแก้ไม่ได้ ยังไงเป็นกำลังใจให้..ครับสู้ๆ..

[Pai_Anonworld]

ระยะนี้ เป็นระยะการระบาดของไรไข่ปลา ที่จะสร้างปัญหาให้แก่บรรดาผู้เพาะเห็ดลม เห็ดขอน เห็ดหูหนูอย่างร้ายแรง และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เพาะเห็ดบางคนที่แก้ปัญหาไม่ได้ โดยหันไปใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายยิ่งแก่ผู้บริโภค เพราะไรไข่ปลา ไม่สามารถปราบได้ด้วยสารเคมี หรือยาฆ่าแมลงทั่วๆไป แม้ว่า บางคน รู้ทั้งรู้ว่า ยาฆ่าแมลง มีฤทธิ์ที่อันตรายร้ายแรงปานใด บางรายถึงกับเอาสารพัดยาฆ่าแมลงมาผสมกัน ทั้งใส่เข้าไปในวัสดุเพาะ และฉีดเข้าไปที่ก้อนเห็ด แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะไรไข่ปลาได้ มีวิธีเดียวที่สามารถเอาไรไข่ปลาให้อยู่หมัดได้ก็คือ ใช้สารพิษที่ร้ายแรงที่สุด ที่ทั่วโลกเขาห้ามนำเข้ามาใช้กับพืช ผักที่มีอายุสั้นรวมกับเห็ด คือ สารที่มีชื่อทางการค้าว่า ฟูราดาน หรือ ดูราแทร์ เป็นสารดูดซึมที่อันตรายมาก แต่ก็มีบรรดาผู้เพาะเห้ดเหล่านี้จำนวนมาก นำเอาสารดังกล่าว ผสมเข้าไปในวัสดุเพาะ เพื่อป้องกันไรไข่ปลา ซึ่งก็ส่งผลไม่ให้ไรไข่ปลาเข้าไปทำลายแย่งกินอาหารเห็ดได้อย่างดีเยี่ยม แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่น่าเศร้าที่สุด ที่สารดังกล่าว เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้บริโภค และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำไมชีวิตคนไทย แม้ว่าจะมีการพัฒนาการสูงส่ง แต่ก็ด้วยการทานอาหารที่เต็มไปด้วยสารพิษต่างๆนานาเข้าไป รวมทั้งอากาศเป็นพิษเข้าไป จึงพบว่า ปัจจุบัน คนไทยเป็นโรคร้ายต่างๆนานมากมายเช่นกัน เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดัน เป็นต้น ดังนั้น สิ่งที่พูดซ้ำแล้ว ซ้ำอีกในเรื่องนี้นั้น ไม่ได้เจตนาที่จะสร้างความแตกตื่นไม่ให้คนกลัวที่จะทานเห็ด แต่เป็นการเตือนให้แก่คนที่เพาะเห็ดที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ นำสารเคมีที่ร้ายแรงผสมกับวัสดุเพาะเห็ด ที่จะทำให้เห็ดที่เพาะออกมาเป็นเห็ดที่มีพิษร้ายแรงไปด้วย เพราะปัจจุบัน ทางราชการตรวจพบเห็ดหลายชนิด มีสารฆ่าแมลงอยู่ในปริมาณที่สูงมาก เกินที่มนุษย์จะนำมาบริโภคได้
ในส่วนคำถามเรื่องการสู้กับไรไข่ปลาในระยะนี้นั้น ต้องตั้งหลักและตั้งสติเสียก่อนว่า ฤดูนี้ เป็นฤดูที่ไรไข่ปลาที่มีอยู่ตามธรรมชาติเจริญเติบโตดีที่สุดและมากที่สุด เนื่องจากตัวมันเล็กมาก มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถติดไปกับพวกขาแมลงหวี่ แมลงวัน หรือจากกระแสลมพัดได้ การที่จะกำจัดมันให้ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ จะด้วยกรดอินทรีย์รวมมากกว่า 8 ชนิด ที่เรียกว่า ฟังแบคคิว หรือสารไล่แมลงต่างๆให้สิ้นซากไปนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะสารดังกล่าว แค่ไปทำให้มันไม่สามารรถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว หรือไปกลบเกลื่อนกลิ่น เพื่อไม่ให้มันเข้ามากินวัสดุเพาะเห็ดเท่านั้น ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า แม้จะมีการฉีดฟังแบคคิวติดต่อกันทุกวัน รวมทั้งใช้ร่วมกับสารไล่แมลงก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถที่จะกำจัดหรือไล่ไรไข่ปลาไปทั้งหมดได้ เพียงแต่ เป็นการควบคุมไม่ให้มันขยายตัวและแพร่กระจายไปมากเกินไป จนทำให้ผลผลิตของเราเสียหายจนไม่สามารรถที่จะทำธุรกิจได้ ดังนั้น จึงขอเรียนว่า ท่านจะต้องทำการฉีดสารดังกล่าวพวกนี้อยู่ตลอดเวลา ก้อนไหน ส่วนไหนที่มีการระบาดมาก จนมองเห็นตัวของมัน นั่นแสดงว่า มันเจริญเติบโตเต็มตัวและมีไข่ในท้องของมันเต็มที่แล้ว(ตัวที่เรามองเห็น แสดงว่า มันจะมีตัวอ่อนอยู่กว่า 4-5 ร้อยตัวในท้องของแม่มัน) หากพบหรือสังเกตเห็นเช่นนี้ แม้ว่าจะเอาออกไปจากโรงเรือน หรือเอาไปตากแดด ก็ไม่สามารถที่จะฆ่ามันให้ตายได้ ในทางตรงกันข้าม จะทำให้แม่มันท้องแตก แล้วตัวออ่อนจะรีบออกมาแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วเสียอีกด้วยซ้ำ ดังนั้น ทางที่ดีควรเพิ่มความเข้มข้นของฟังแบคคิว แล้วฉีดเข้าไปยังก้อนหรือจุดที่มีไร่ไข่ปลาที่ปรากฏออกมาให้เห็นดีกว่าจะแยกเอาออกไปสร้างปัญหาแพร่กระจาย นอกจากนี้ ระยะนี้ ต้องพยายามเอาพืชที่มีสารหรือกลิ่นที่ไรไม่ชอบ เอาไปปัก เอาไปเสียบไว้ยังบริเวณที่เปิดดอก เช่น ใบกระเพรา ใบยาสูบ ใบสาบเสือ ใบตะไคร้ ซึ่งกลิ่นพวกนี้ ไรไข่ปลาไม่ชอบ รวมทั้งไรที่มีปัญหาในเห็ดฟางด้วย ก็ไม่ชอบกลิ่นพวกนี้ ส่วนรอบๆโรงเรือน ที่ไม่ได้เกี่ยวกับพื้นที่ที่วางก้อนเห็ดนั้น อาจจะใช้ยาฆ่าแมลงทั่วไป ฉีดรอบๆโรงเรือน เพื่อเป็นการป้องกัน การที่จะเป็นพาหะ ที่ไรไข่ปลาอาจจะเกาะติดตัวมด แมลงหวี่ แมลงวัน เข้าไปยังก้อนเห็ดได้

[Rachya D]

ขอบพระคุณคุณไผ่กับพี่หมูที่เป็นกำลังใจให้นะคะ
ตอนนี้ได้สั่งซื้อฟังแบคคิวมาเพิ่มแล้วค่ะ ค่อยๆแก้ไปทีละอย่างตามคำแนะนำของทางร้าน คิดว่าน่าจะดีขึ้นนะคะ(หวังว่าอย่างนั้น)ผลความคืบหน้ายังไงจะรายงานให้ทราบอีกครั้งนะคะ แต่ก็มั่นใจในผลิตภัณท์ของทางอานนท์ไบโอเทคมากคะ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ใช่สมาชิกของทางศูนย์แต่ก็ยังให้คำแนะนำดีๆตลอด ขอบพระคุณมากๆค่ะ
รัชญา

[Pram129]

ผมกำลังศึกษาการเพาะเห็ดเป็นอาชีพ ไปพบข้อความไรไข่ปลา ลองพิจารณาดูนะครับ

ปัญหาสารพันของเห็ดขอนดำก็เป็นเรื่องของเชื้อรา ที่ตั้งหน้าตั้งตาท้ารบกับผู้เพาะเห็ดทุกคน จนต้องทำให้คุณธวัชนำ บีเอสพลายแก้ว ตัวเก่งเข้ามาจัดการ ส่วนเรื่องหนอนแมลงหวี่ก็จะใช้ เชื้อบีทีชีวภาพ หมักขยายอัดฉีดเข้าไปเพื่อตัดวงจรของแมลงหวี่ และใช้แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ดในการกระตุ้นเส้นไยภายในก้อนและบำรุงให้ดอกเห็ดให้อวบอ้วนสมบูรณ์ ในกระบวนการผลิตทั้งหมดส่วนใหญ่คุณธวัชจะจัดการดูแลได้สบายไม่มีปัญหา แต่ที่สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมากคือปัญหาเรื่อง “ไร” โดยเฉพาะ “ไรไข่ปลา” คุณธวัชแจ้งว่าจะพบตั้งแต่เริ่มเปิดหน้าก้อนครั้งแรกเลย ไม่ต้องรอรอบสองหรือรอบสามเหมือนที่ฟาร์มอื่นๆ เขาเจอกัน ของคุณธวัชนี้คือเปิดหน้าก้อนมาก็พบปัญหานี้เลย “ไรไข่ปลา” ( Luciaphorus sp. ) นั้นจะมีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจะต้องใช้แว่นขยายมาส่องจึงจะมองเห็น โดยในสภาพธรรมชาติจะเป็นจุดเล็ก ๆ ขาวใส เมื่อแก่จะออกเหลืองกระจายอยู่เต็มไปหมดทั่วทั้งก้อน มีวงจรระยะไข่ ถึง ตัวแก่ สั้นมาก เพียงแค่ 4 – 5 วัน จะพบตัวเมียมากกว่าตัวผู้ถึง 4 เท่า โดยตัวเมียยังสามารถขยายพันธุ์ต่อด้วยการออกไข่และเป็นตัวได้โดยไม่ต้องผสมพันธุ์กับตัวผู้ ทำให้ไรเกิดการระบาดได้อย่างรวดเร็วรุนแรง โดยเฉพาะในระยะที่กำลังสร้างเส้นไยหรือในช่วงที่เส้นไยกำลังเจริญเติบโตแผ่นขยายออกไป ตัวไรจะกัดกินเส้นไยจนฉีกขาดออกจากกัน จนเห็ดไม่ออกดอกเกิดความเสียหายมากมาย
ปัญหาจากไรอีกส่วนหนึ่งก็คือการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ปั่นป่วน ในกระบวนการผลิต เช่น ตัวไรที่โตเต็มวัยมักจะไต่ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในช่วงที่ต้องเข้าไปทำกิจกรรมในโรงเรือน เช่นเมื่อถึงเวลาทำความสะอาด, ฉีดพ่นสมุนไพร หรือจุลินทรีย์ปราบเชื้อราต่างๆ หรือในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตก็ตาม ล้วนแต่ได้รับปัญหาจาก “ไร” ตลอดมา เมื่อคุณธวัชได้ทราบว่าชมรมเกษตรปลอดสารพิษมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้กำจัดไรชื่อว่า “ไมโตฟากัส” จึงได้ทำการสอบถามข้อมูลและสั่งซื้อนำไปใช้ ทำให้ปัญหาดังกล่าวนั้นหมดสิ้นไป ในระยะปรกติก็ใช้วิธีการหมักขยายตามที่ได้อ่านจากฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือตามคำแนะนำที่นักวิชาการของชมรมเกษตรปลอดสารพิษได้บอกไว้ แต่หลังจากใช้ไปได้ระยะหนึ่ง ก็ได้สังเกตุและอาศัยความรู้จากประสบการณ์ก็ห็นว่า การใช้ “ไมโตฟากัส” แบบหมักขยายจะให้ผลลัพธ์ที่ช้ากว่า จึงได้ทดลองใช้ “ไมโตฟากัส” 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเลยทันที ผลปรากฎหลังจากที่ฉีดพ่นไปในวันแรกแล้วทิ้งไว้ 1 คืน เช้าตื่นขึ้นมาดู ก็จะพบว่า ไรไข่ปลาจะฝ่อแห้งตายในทันที วิธีการดังกล่าวของคุณธวัช นพรัตน์ นั้นก็มิได้หวงแหนเก็บไว้ใช้คนเดียว ใครจะนำไปดัดแปลงต่อยอดก็ไม่มีปัญหา ถือว่าเป็นวิทยาทานแก่พี่น้องในวงการผู้เพาะเห็ด

Pram129

[Rachya D]

ขอบคุณค่ะ คุณPram129
สำหรับข้อมูลดีๆดิฉันจะลองนำไปใช้ดูนะคะเพราะตอนนี้ไรไข่ปลาที่โรงเพาะเห็ดขอนขาวกำลังวิกฤตเลยค่ะ สังเกตุเห็นว่าตัวไรมันไต่ตามมือเลยค่ะเวลาเก็บเห็ด และเห็ดก็ไม่ค่อยออกเลย แต่ก็จะสู้ๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ

[Pram129]

ขอให้กำจัดได้โดยเร็ววันครับ
ทำอย่างไรไปบ้าง ได้ผล ไม่ได้ผลอย่างไร ช่วยกลับมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ