Anon Biotec web board
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ขนาดของดอกเห็ดขอขขาว

2 posters

Go down

ขนาดของดอกเห็ดขอขขาว Empty ขนาดของดอกเห็ดขอขขาว

ตั้งหัวข้อ  junthip Wed Sep 22, 2010 11:37 am

สวัสดีค่ะอาจารย์ ดิฉันจันทร์ทิพย์ สมาชิกเลขที 2553/93/2508
หนูมีข้อสงสัยค่ะอาจารย์ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า แม่ค้าที่หนูส่งเห็ดให้กับเขาทุกวันนี้ เขาต้องการให้หนูเก็บดอกเห็ดส่งให้กับเขาเอาแค่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 ซม. คือแบบว่าเล็กมากๆ หนูก็เลยสงสัยว่าถ้าหนูเก็บดอกเห็ดขนาดเล็กแล้วน้ำหนักมันก็เล็กน้อยตามขนาดไหมหรือเล็กใหญ่ไม่ใช้ประเด็นค่ะ อ้อ ถ้าขนาดใหญ่น้ำหนักมากกว่าหนูก็อาจจะย้ายไปส่งให้กับแม่ค้าอีกรายที่เขาซื้อขนาดใหญ่กว่าค่ะ
หนูขอบ่นหน่อยเถอะค่ะแม่ค้ารายนี้น่ะเห็ดออกมาหนูส่งวันแรก ครึ่งโลค่ะ ได้เห็ดราคาโลละ 60 บาท วันที่ 2 ส่ง 2 โล ได้ราคาโลละ 50 วันที่ 3 ส่ง 8 โล ได้ราคาโลละ 45 แล้วหลังจากนั้นก็ 45 ยาวเลย ยังไม่ขึ้นและไม่ลง และ ยังเน้นเอาดอกเล็กๆอีก เฮ้อเหนื่อยใจ แต่หนูไม่ท้อหลอกค่ะหนูหาทางออกสำรองไว้แล้ว เพราะมีแม่ค้าอีกรายให้โลละ 55 บาท ยาวเลย
วันนี้แค่นี้ก่อน
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
จันทร์ทิพย์ คนอ่างทองจ้า
junthip
junthip

จำนวนข้อความ : 16
Join date : 19/07/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขนาดของดอกเห็ดขอขขาว Empty ควรจะเลิกขายเห็ดขอนขาวในราคาส่งเพียง 45 บาทได้แล้ว

ตั้งหัวข้อ  anonmush Thu Sep 23, 2010 5:55 am

นี่คือตัวอย่างการเอาเปรียบของสังคม และการที่คุณผลิตจำนวนน้อย และประกอบกับคุณอยากจะทำอะไรให้ง่าย และปัดภาระในส่วนสำคัญไป คุณรู้ไหม ผู้เพาะเห็ดแทบทุกชนิดส่วนใหญ่ ต่างถือว่า ปีนี้เป็นปีทองของเห็ด เพราะราคาสูงมากมาเกือบตลอด และเห็ดขอนขาว เคยสูงถึง กก.ละเกือบ 100 บาท ขณะนี้ราคาหน้าฟาร์มเคลื่อนไหวอยู่ที่ 60-65 บาท ขณะที่คุณขายเพียง 45 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าความเป็นจริง อาจจะเป็นเพราะว่า มันมีจำนวนน้อยเขาเสียเวลามาเอา หรือว่า คุณยังไร้เดียงสาในการตลาดอยู่ แต่อันหลังนั้นไม่น่าน๊ะ เพราะดูจากคำถามที่คุณถามมาโดยตลาด ก็ทราบได้ว่า คุณก็ไม่เบาน๊ะ(ไม่ได้หมายความว่า อ้วนหรือผอม) คุณสามารถติดตามเรื่องราวความเคลื่อนไหวเรื่องเห็ด และถามปัญหามาตลอด ก็แสดงว่า คุณมีข้อมูลรอบด้านเกี่ยวกับเห้ดและการตลาด แต่ทำไมถึงขายได้ถูกเช่นนี้ นี่มันตายตอนจบนี่หว่า แล้วทำไมคุณผลิตแค่นี้ ทำไมไม่ลองทำตลาดเองล่ะ แบ่งออกมาเป็นถุงเล็กๆ แล้วไปฝากแม่ค้าขายผักแถวนั้นขายไม่ได้เหรอ เพราะเรามีปริมาณน้อย แต่อย่ามาอ้างน๊ะว่า ผลผลิตของเห้ดบางครั้งก็มาก บางครั้งก็น้อย ควบคุมปริมาณการผลิตไม่ได้ แบบนี้ ผมจะให้บริษัทไฟน์อินโฟ จำกัด ที่เป็นบริษัทของหลานผม ที่ช่วยจัดเกี่ยวกับการอบรม และเป็นบริษัทที่มีผลงานดีเด่นหลายปีซ้อน นี่เพิ่งได้รับรางวัลจาก องคมนตรีไปหยกๆ ผมจะสั่งให้เขายึดเอาใบประกาศนียบัตรอบรมเห็ดจากคุณคืนแน่นอน หากคุณตอบในใจว่า คุณไม่รู้เรื่องการตลาด แล้วดอกเห็ดที่ออกมาต้องรีบขาย เก็บไว้นานไม่ได้ เอาล่ะ เหตุผลแรกผมอาจจะให้อภัยได้ เพราะคนไทยยังไม่เข้าใจเรื่อง การตลาดจริงๆคืออะไร แม้ว่า หลายคนจบเรื่องการตลาดมา รวมทั้งอีตากระเทยแก่ ที่ออกมาฉอดๆในทีวีของรับบาล ส่วนปัญหาข้อที่สองนั้น ผมรับไม่ได้ เพราะเคยสอนในการอบรมไปแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นเห็ดหรือพืชผัก เวลาคุณเก็บนานๆหลายวัน มันก็ยังคงหายใจ และคายก๊าซเอทธิลินออกมา พอมันถูกเด็ดหรือถูกตัดออกมาจากแหล่งอาหารของมัน หรือมันแก่ มันจะย่อยตัวเอง ที่เขาเรียกว่า Autolysis แล้วจะมีก๊าซเอทะิลินเกิดขึ้น แน่นอน การหายใจของพืช ผัก ก็จำเป็นจะต้องใช้ออกซิเจนอย่างเพียงพอ ดังนั้น หากคุณเอาผัก หรือเห็ดเก็บไว้ในถุงพลาสติกธรรมดา แล้วนำไปเก็บในตู้เย็น อีกไม่นานก็จะเน่า แฉะ และมีกลิ่นเหม็น สาเหตุก็เพราะ ถุงที่ใช้เก็บผักหรือเห็ดนั้น อากาศออกซิเจนไม่สามารถผ่านได้ในปริมาณที่เพียงพอ ทำให้เกิดการขาดอากาศ จึงเป็นการเร่งให้มันย่อยตัวเองได้เร็วขึ้น ประกอบกับก๊าซเอทธิลินที่ถูกสร้างขึ้นสะสมในถุง มันกลายเป็นแบบโดมิโน กล่าวคือ มันจะเร่งให้มีการย่อยตัวเองเร็วยิ่งขึ้น แล้วเกิดก๊าซที่กลิ่นเหม็นขึ้น ลักษณะเช่นนี้ ก็เช่นเดียวกัน หากคุณใช้ถุงธรรมดาเก็บเห็ดขอนขาวคุณ เพียงแค่ข้ามคืนเท่านั้น ดอกเห้ดขอนขาวคุณจะมีกลิ่นเหม็น หมวกดอกเละ มีน้ำแฉะอยู่ในถุง แม้ว่า คุณจะรองด้วยกระดาษ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเอทธิลินก็ตาม แล้วจะทำไงดีในเรื่องนี้ ตรงนี้ไง หากคุณไม่รู้ จะต้องโดนเรียก ใบประกาศนียบัตรในการอบรมเห็ดคืนแน่ๆ วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ก็ถุงยืดอายุไง จำไม่ได้เหรอ ก่อนจะจบการอบรม ผมก็จะเอาถุงยืดอายุ หรือ ถุง MAP(Modified Atmospheric Plastic bag) เป็นถุงที่ทำด้วยพลาสติกที่มีส่วนผสมของเนื้อพลาสติกชนิดพิเศษ สามารถอนุญาตให้อากาศออกซิเจนผ่านเข้าไปได้สูงถึง 10% ขณะที่ถุงทั่วไปได้ไม่เกิน 1% และให้ก๊าซเอทธิลินซึมออกได้ จะทำให้ผักหรือเห็ด สามารถหายใจได้ตามปกติ โดยจะไม่คายน้ำออกมา รวมทั้งกลิ่นไม่พึงปรารถนาด้วย ทำไมคุณไม่เอาเห็ดสดของคุณเก็บไว้ในถุงนี้เล่า อย่าไปง้อขายให้แก่แม่ค้าหน้าโลหิตรายนี่สิ(เห็นไหม ยุให้ตัดสัมพันธ์เสียเลย ดีน๊ะที่คุณไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรกับซาอุเขา ไม่งั้นผมจะยุให้พังกันไปข้างหนึ่งเลย) โดยเอาเห็ด เอาผัก เอามะนาว เอาอะไรก็แล้วแต่ ที่คุณต้องการยืดอายุการเก็บในตู้เย็นได้นานถึง 3 เท่า โดยยังรักษาความสดเหมือนเดิม ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีน้ำแฉะ จากนั้น เมื่อไหร่ คุณว่าง คุณก็ทำเป็นถุงเล็กๆไปฝากขายสิ หรือเอาไว้ไปขายให้รายอื่นอย่างไม่ต้องรีบร้อนสิ อย่าทำเหมือนผีถึงป่าช้าสิ ใช่ว่า เก็บดอกเห็ดปุ๊บ ก็รีบขายปั๊บ เพราะกลัวเห็ดเน่า เห็ดเละ ที่นี้วิธีการเริ่ม การทำตลาดนั้น คุณจะต้องเข้าใจความหมายคำว่าตลาดจริงๆน๊ะ อย่าไปเชื่ออีกระเทยเฒ่ามัน คุณลองไปถามอีตาประวัติดูสิว่า การตลาดที่แท้จริงมันคืออะไร คุณอย่าตอบผมเหมือนกับคนอื่นเขาตอบว่า การตลาด คือ การเอาของไปขาย แล้วได้กำไรเยอะๆน๊ะ นั้นมันเด็กอมมือ เขาก็ตอบเช่นนั้น เอาเป็นว่า ให้การบ้านคุณไปทำ แล้วลองตอบมา หากตอบไม่ได้ไปถามอีตาประวัติหรือจิวดู หากอีตาจิวตอบไม่ได้ ผมก็จะยึดเอาตำแหน่งหน้าม้าอันดับหนึ่งคืน ส่วนเมียแก ฝากไว้กับแกก่อน แต่ผมจะรับผิดชอบเมียแก ด้วยการให้เห็ดเป็นยาจนแกหาเป็นปกติ คุณช่วยบอกแกด้วยก็แล้วกัน ถือเสียว่า พวกเราเป็นพี่น้องร่วมสถาบันเดียวกัน

anonmush
ผู้มาเยือน


ขึ้นไปข้างบน Go down

ขนาดของดอกเห็ดขอขขาว Empty ผมความรู้น้อยครับ

ตั้งหัวข้อ  KaiOtoko Sat Sep 25, 2010 12:11 pm

สวัสดีครับ อาจารย์ และคุณจันทร์ทิพย์,
ผม นายจิว เลขที่สมาชิก 2552/P91/2403 เจ้าเก่าครับ
ก่อนอื่น ผมต้องขอออกตัวก่อนเลยครับว่า ผมไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย ไม่ได้จบการตลาดมา แล้วก็ไม่ได้เก่งอะไรนะครับ (สังเกตได้จาก จนถึงป่านนี้ ก็ยังไม่รวยเลยครับ) เพราะว่า จริงๆ แล้ว ทั้งเรื่องการตลาดและประสบการณ์นี่ อาจารย์ท่านนับว่าสุดยอดแล้วครับ คำแนะนำของอาจารย์ มีคุณค่าที่สุดแล้ว แต่ที่วันนี้ต้องขอเข้ามาแจมในกระทู้ของคุณจันทร์ทิพย์ ก็เพราะ่ว่าอาจารย์ให้การบ้านผมไปครับ ว่า การตลาดคืออะไร
ดังนั้น ผมขออนุญาตเข้ามาส่งการบ้าน ผ่านทางกระทู้ของคุณจันทร์ทิพย์หน่อยนะครับ
อาจารย์ครับ ผมขออนุญาตตอบตามความเข้าใจซึ่งไม่ได้มาจากตำราใดๆ นะครับ ผิดถูกประการใด ขออาจารย์ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ ผมเข้าใจว่า การตลาดคือ การสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้น การตั้งราคาต้องตั้งอยู่บนความเหมาะสมของต้นทุนและกำไร โดยมีมนุษยธรรมและคุณธรรมกำำกับครับ ในกรณีของคุณจันทร์ทิพย์ ที่อาจจะยังผลิตไม่เยอะมาก ที่อาจารย์แนะให้ ทำเป็นถุงเล็กๆ แล้วไปฝากขายนั้น ผมคิดว่า เป็นวิธีที่ดี และชาญฉลาดมากครับ เพราะว่า จะทำให้คุณจันทร์ทิพย์สามารถขายได้ราคาสูงขึ้นกว่า ที่จะขายส่งในเจ้าที่ให้ราคา 45 บาทมาก นอกจากคุณจันทร์ิิทิพย์จะได้เงินน้อยกว่าที่ควรแล้ว (ทั้งราคาและน้ำหนัก เนื่องจากเค้าเอาดอกเล็กมาก) ยังมีส่วนทำให้ราคาตลาดเสียด้วยครับ ก้อนของคุณจันทร์ทิพย์ก็จะหมดเร็ว ทั้งหมดนี้ คุณจันทร์ทิพย์คงทราบดีอยู่แล้ว การที่คุณจันทร์ทิพย์ทำเป็นถุงเล็กๆ แล้วไปฝากขาย เท่ากับคุณจันทร์ทิพย์จะขายได้ในราคาปลีก ซึ่งสูงกว่าราคาส่งมาก และนั่นก็คือการกระจายสินค้า หรือสนองความต้องการของผู้บริโภคได้จำนวนมากกว่า ที่คุณจะไปขายให้แม่ค้าเพียงคนเดียว เพราะถ้าลูกค้าคุณมีเพียงคนเดียว แน่นอนว่า อำนาจต่อรองคุณย่อมตกเป็นรองแม่ค้า ตามหลักอุปสงค์อุปทานครับ ส่วนผู้บริโภคก็ไม่ได้ซื้อของในราคาที่สูงขึ้นแต่อย่างใด
ขอยืนยันอีกครั้งตรงนี้นะครับว่า ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาอวดภูมิ หรืออะไร เพียงแต่ต้องเข้ามาส่งการบ้าน เพราะอาจารย์ท่านทวงถามมาครับ ความจริงผมคิดว่า เรื่องการตลาดนี่ คุณจันทร์ทิพย์น่าจะเก่งกว่าผมเยอะนะครับ เพราะฉะนั้น ผิดถูกประการใด โปรดให้อภัย และแก้ไขให้ด้วยนะครับ
จิว (ศิษย์มีครู)
KaiOtoko
KaiOtoko

จำนวนข้อความ : 121
Join date : 11/07/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ