รวมคำเมล์จาก พ.อ.ภักดี ตองอ่อน ผู้เพาะเห้ดแครงด้วยวัสดุที่ไม่ใช่ขี้เลื่อย

[anonmush]

เรียนอาจารย์อานนท์ วันที่ 30 กรกฎาคม 2553
อาจารย์ครับ ผมมัวแต่วุ่นกับการทำโรงเปิดดอกเห็ด ถุงเห็ดแครงเกือบทั้งหมดที่ผมใช้สูตรอาหารแกลบ 30 กก.+กากมัน 15 กก.

บ่มไว้ในห้องเก็บเครื่องมือที่ปิดทึบ ไว้นาน 20 วันรอโรงเปิดดอก ยังไม่ได้รีบเอาออกมาผูกปากถุงและกรีดข้างถุงตามที่อาจารย์แนะนำไปแล้วก็เริ่มเหม็นเน่าคลุ้งไปทั้งห้อง ผมตรวจถุงจากภายนอกดูพบว่ามีดอกเห็ดแทรกออกตรงซอกข้างจุกประหยัดสำลี แต่ดอกเห็ดได้ฝ่อแห้งลงไปแล้ว ในถุงมีน้ำสีน้ำตาลเยิ้ม ก้อนเห็ดร่วนยุ่ย ผมเลยคัดแยกเอาออกมาแกะถุงออกเทใส่กองปุ๋ยหมักที่กำลังร้อนจัด
แต่มีถุงเห็ดจำนวนหนึ่งที่ผมทดลองทำ โดยกากมันสำปะหลังในปริมาณมากผสมฟางข้าวเล็กน้อยเพื่อช่วยซับความชื้น
ได้เส้นใยเห็ดที่มีมีลักษณะแน่นแต่เส้นใยเดินช้ามาก เมื่อเริ่มเกิดตุ่มดอก ผมเปิดปากถุงแล้ววางตะแคงให้ออกดอก เส้นใยยังเดินต่อ
กับถุงเห็ดที่ใช้ฟางข้าวล้วน ๆ ส้นใยเดินเต็มเร็ว โดยไม่มีดอกเห็ดแทรกจุกสำลีอออกมา ไม่เน่า ผมถ่ายรูปส่งมาให้อาจารย์ดูแล้วได้ครับ
รูป 1 ถุงซ้ายมือสุดใช้กากมันสำปะหลังในปริมาณมาก+ฟางข้าวน้อย เมื่อเริ่มเกิดตุ่มดอกสีน้ำตาลเส้นใยยังอยู่แค่ครึ่งถุง เลยต้องกรีดข้างเป็นรอยสั้น
ถุงกลางใช้ฟางข้าวมาก+กากมันน้อย ถุงขวาใช้ฟางข้าวล้วน ๆ ทั้งสองถุงเมื่อเริ่มเกิดตุ่มดอกเส้นใยเดินเต็มถุง สามารถกรีดข้างถุงเป็นแนวยาวได้
รูป 2 เป็นถุงที่ใช้กากมันสำปะหลังในปริมาณมาก เส้นใยเดินไม่เต็มถุงแต่เริ่มเกิดตุ่มดอก ผมทดลองวางนอนให้เกิดดอกที่ปากถุง ขณะที่เกิดดอกตรงปากถุง
เส้นใยด้านในยังเดินต่อ (รูป 3)



อาจารย์ครับ ผมส่งรูปถุงเห็ดแครงชุดแรกที่ผมบ่มไว้ได้ครบ 19 วัน มาให้อาจารย์ดูครับ

ผมสังเกตเห็นการเกิดดอกเห็ดแทรกข้างจุกสำลีออกมาก่อนหน้านี้แล้ว

แต่ยังไม่ได้รัดปากถุงและกรีดด้านข้างตามคำแนะนำของอาจารย์

เนื่องจากโรงเรือนเปิดดอกเพิ่งจะทำเสร็จ ผมจะลงมือรัดปากถุงและกรีดด้านข้างวันนี้ครับ


เรียน อ.อานนท์ วันที่ 3 กรกฎาคม 2553


ผมแนบรูปถุงเห็ดแครงที่ผมทำมาให้อาจารย์ดูด้วย เขี่ยหัวเชื้อไปได้ 60 ชม. พอดี หัวเชื้อเห็ดแครงในขวดเดินเร็วมาก ผมมัวแต่พิจารณาหาวัสดุมาทำอาหาร จะสับต้นข้าวโพดกลัวเสียเวลาไม่ทันการ ผมเลยใช้วิธีผสมแกลบกับกากมันสำปะหลังด้วยอัตราส่วนแกลบ 1 กระสอบ 30 กก. กับกากมัน 15 กก. (เป็นกากมันเปียกที่ใช้เลี้ยงวัวนม) กับอาหารเสริมของอาจารย์ + จุลินทรีย์ UM ใช้แกลบไปทั้งหมด 4 กระสอบ แล้วหมักไว้หนึ่งคืน บรรจุถุง ทำได้ประมาณ 350 ถุง แล้ว sterilize นาน 15 นาที ปล่อยให้เย็นดีแล้วเขี่ยหัวเชื้อ ใช้หัวเชื้อไปไม่ถึง 30 ขวด หัวเชื้อที่เหลือผมทดลองคลุกกับฟางข้าวที่ sterilize นาน 5 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วห่อด้วยพลาสติกบางแบบที่ใช้หุ้มอาหาร เป็นก้อนใหญ่ ๆประมาณ 10-15 กก.
ผมได้เทคนิคชุบฟางให้เปียกและเอาออกจากถัง auto clave อย่างไม่หนักได้โดยบังเอิญ คือว่าผมยัดฟ่อนฟางแห้ง 5 ฟ่อน เข้าไปในถัง ปิดฝาให้สนิทแล้วต่อท่อจากระบบสูบน้ำในไร่เข้าทางท่อระบายน้ำออกของถังจนน้ำเต็มถัง เครื่องสูบน้ำที่ไร่ผมทำความดันได้ถึง 30 psi อัดแช่ไว้ไม่นาน แล้วผมปล่อยน้ำออกเหลือพอต้มทำไอน้ำ แล้ว sterilize ด้วยความดัน 15 psi ใช้เวลาไม่นาน ทิ้งไว้ให้เย็น ตอนเอาออกได้ฟางนุ่มความชื้นกำลังพอดี และไม่หนักมากครับ

ด้วยความนับถือ

พ.อ.ภักดี ตองอ่อน

[anonmush]

คำตอบสำหรับเมล์วันที่ 30 กรกฎาคม 2553

ต้องขอกราบขอบคุณท่านผู้การเป็นอย่างสูง ที่มีอะไรดีก็คอยมาให้ทราบ ผมก็ขออนุญาตนำไปขยายผล เพื่อแจ้งให้สมาชิกต่ออีกที สำหรับเห็ดแครงที่ท่านผู้การทำและส่งรูปมาให้ดูนั้นน่าตื่นเต้นมาก เพราะยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน เห็ดที่ไม่มีใครทำ เพราะส่วนใหญ่ไปเรียนมา แล้วอาจารย์ไม่ได้สอนให้ทำ ก็เลยไม่ทำ จริงๆแล้ว บางที บางอย่าง บางอาจารย์ หรือ อาจารย์ส่วนใหญ่ รวมทั้ง อาจารย์อานนท์ เอื้อตระกูล ก็ยังไม่เคยทำมาก่อน เช่นเดียวที่ผู้การทำ ก็ยังไม่เคยมีรายงานว่ามีใครเคยทำมาก่อน เพราะส่วนใหญ่มักคิดว่า เห็ดแครง มันเป็นเห็ดที่เกิดขึ้นบนไม้ ก็เลยหลับหูหลับตาหาขี้เลื่อยมาสารพัดขี้เลื่อยมาเพาะเห็ดชนิดนี้ ผลสุดท้าย โอกาสที่จะประสพผลสำเร็จน้อยมาก เกษตรกรชาวกระบี่ที่เพาะเห้ดแครงกันเป็นล่ำเป็นสัน ก็นิยมใช้ข้าวฟ่างต้ม ผสมขี้เลื่อยเล็กน้อย เส้นใยเดินดี ออกดอกเร็ว ผลผลิตสูง แต่ต้องนึ่งด้วยหม้อนึ่งความดัน จึงจะทำให้มีเปอร์เซ็นต์เสียน้อย แต่สำหรับของผู้การนั้น ผมว่าสุดยอดครับ เพราะ วัสดุที่ใช้เพาะหาง่าย ใกล้ตัวแท้ๆ แล้วดอกเห้ดที่เห็นในรูปสมบูรณ์ดีมาก ดอกใหญ่ มีก้านสวยมาก อย่าลืมน๊ะครับว่า เห้ดแครงมีรสชาติอร่อยมาก เก็บไว้ได้นาน หากไม่ทานก็ตากแห้งได้ด้วยวิธีง่ายๆ เมื่อจะเอามาทาน ก็เพียงเอามาแช่น้ำ ก็จะสดและมีรสชาติเหมือนเดิม ที่สำคัญที่สุด เห็ดแครง เป็นเห็ดที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้พิสูจน์แล้วว่า มันมีสรรพคุณอย่างดีเยี่ยมในการใช้เป็นยารักษาโรคมะเร็งปากมดลูก ที่ญี่ปุ่นได้ใช้เห็ดชนิดนี้ สกัดเป็นยามะเร็งขายไปทั่วโลก รวมทั้งส่งมาขายในไทยราคาแพงมาก ฉะนั้น ขอให้กำลังใจท่านผู้การ ทำการทดลองต่อครับ แล้วเดี๋ยวเราช่วยกันรณรงค์ ส่งเสริมเรื่องของเห็ดแครงกันอย่างจริงจัง ที่ผ่านมายังทำไม่ได้ เพราะยังไม่มีใครที่ทำกันจริงๆจัง และได้ผลต่อเนื่องนานๆ อีกประการหนึ่ง ดอกเห็ดแครงที่ออกมามันไม่ได้สวยเหมือนของผู้การครับ
--- On Fri, 7/30/10, Packdee Tongon <packdee58@hotmail.com> wrote:


From: Packdee Tongon <packdee58@hotmail.com>
Subject: RE: รูปเห็ดแครงเข้าท่ามากครับ
To: "ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล" <tbcbiotec@yahoo.com>
Cc: "บุหงา แนวชาลี" <bunga_97@hotmail.com>
Date: Friday, July 30, 2010, 2:26 PM




เรียนอาจารย์อานนท์

อาจารย์ครับ ผมมัวแต่วุ่นกับการทำโรงเปิดดอกเห็ด ถุงเห็ดแครงเกือบทั้งหมดที่ผมใช้สูตรอาหารแกลบ 30 กก.+กากมัน 15 กก.

บ่มไว้ในห้องเก็บเครื่องมือที่ปิดทึบ ไว้นาน 20 วันรอโรงเปิดดอก ยังไม่ได้รีบเอาออกมาผูกปากถุงและกรีดข้างถุงตามที่อาจารย์แนะนำไปแล้ว

ก็เริ่มเหม็นเน่าคลุ้งไปทั้งห้อง ผมตรวจถุงจากภายนอกดูพบว่ามีดอกเห็ดแทรกออกตรงซอกข้างจุกประหยัดสำลี แต่ดอกเห็ดได้ฝ่อแห้งลงไปแล้ว

ในถุงมีน้ำสีน้ำตาลเยิ้ม ก้อนเห็ดร่วนยุ่ย ผมเลยคัดแยกเอาออกมาแกะถุงออกเทใส่กองปุ๋ยหมักที่กำลังร้อนจัด

แต่มีถุงเห็ดจำนวนหนึ่งที่ผมทดลองทำ โดยกากมันสำปะหลังในปริมาณมากผสมฟางข้าวเล็กน้อยเพื่อช่วยซับความชื้น

ได้เส้นใยเห็ดที่มีมีลักษณะแน่นแต่เส้นใยเดินช้ามาก เมื่อเริ่มเกิดตุ่มดอก ผมเปิดปากถุงแล้ววางตะแคงให้ออกดอก เส้นใยยังเดินต่อ

กับถุงเห็ดที่ใช้ฟางข้าวล้วน ๆ ส้นใยเดินเต็มเร็ว โดยไม่มีดอกเห็ดแทรกจุกสำลีอออกมา ไม่เน่า ผมถ่ายรูปส่งมาให้อาจารย์ดูแล้วได้ครับ

รูป 1 ถุงซ้ายมือสุดใช้กากมันสำปะหลังในปริมาณมาก+ฟางข้าวน้อย เมื่อเริ่มเกิดตุ่มดอกสีน้ำตาลเส้นใยยังอยู่แค่ครึ่งถุง เลยต้องกรีดข้างเป็นรอยสั้น
ถุงกลางใช้ฟางข้าวมาก+กากมันน้อย ถุงขวาใช้ฟางข้าวล้วน ๆ ทั้งสองถุงเมื่อเริ่มเกิดตุ่มดอกเส้นใยเดินเต็มถุง สามารถกรีดข้างถุงเป็นแนวยาวได้

รูป 2 เป็นถุงที่ใช้กากมันสำปะหลังในปริมาณมาก เส้นใยเดินไม่เต็มถุงแต่เริ่มเกิดตุ่มดอก ผมทดลองวางนอนให้เกิดดอกที่ปากถุง ขณะที่เกิดดอกตรงปากถุง
เส้นใยด้านในยังเดินต่อ (รูป 3)



--------------------------------------------------------------------------------
Date: Tue, 20 Jul 2010 06:08:19 -0700
From: tbcbiotec@yahoo.com
Subject: RE: รูปเห็ดแครงเข้าท่ามากครับ
To: packdee58@hotmail.com; roongprasert@hotmail.com; cherrysci59@hotmail.com; fezclub@hotmail.com; anonbiotec_bee@hotmail.com

เรียนท่านผู้การภักดี
ขอขอบคุณอีกครั้งที่แนะนำเรื่องที่ พอดีผมไปครึ่งทางแล้วกลับ เพราะมันไกลเกินที่ผมจะไปดูแลกิจการไหว ตอนนี้กำลังดูที่แถวหนองหมูวิหารแดง ประมาณ 30 กว่าไร่ ห่างจากผมประมาณ 50 กม. กำลังเจรจากันอยู่ครับ สำหรับรูปเห็ดแครงที่ส่งไปให้ดูนั้นน่าสนใจมากเป็นพิเศษครับ เพราะส่วนใหญ่สูตรอาหารที่เพาะเห็ดแครงที่ใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นขี้เลื่อยผสมสูตรต่างๆ หรือใช้ธัญพืช เส้นใยเห็ดแครงมักจะเจริญลงไปได้ไม่เท่าไหร่แล้วมันจะรีบเกิดดอกทันที นับว่าเป็นผลเสียมาก เพราะมันยังกินอาหารไปไม่หมด แต่ดูจากรูปที่ผู้การส่งไปให้ผมนั้น ผมว่าสุดยอดเลย และน่าตื่นเต้นมาก ที่เส้นใยสามารถเจริญเต็มวัสดุได้ แม้ว่าจะใช้ถุงยาว ผมว่า น่าจะได้เรื่องดีแล้ว เป็นไปได้ไหม รอให้มันเต็มถุงก่อน แล้วทำการเปิดให้มันออกดอก แต่อย่างไรก็ตาม มันเดินมาขนาดนี้ ก็นับว่าสุดยอดมากครับ การเปิดดอก อยากแนะนำวา ให้ใช้วิธีมัดปากถุง แล้วแขวน พร้อมทั้งใช้มีดกรีดด้านข้าง สิ่งที่ต้องทำทันที คือ ต้องฉีดสารไล่แมลง และฟังแบคคิวแทบทุกวันเลยน๊ะครับ เพราะเห็ดแครงมันหอมมาก ด้วงปีกแข็งมันชอบเข้ามาทำลายเส้นใยและดอกเห้ด ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหายได้ ผมว่า หากวิธีนี้สำเร็จ คงจะช่วยวงการเห็ดแครงของไทยให้ยิ่งใหญ่ เพราะทั่วโลกเขาเอาเห็ดแครงจากไทย ไปสกัดเป็นยารักษาโรคมะเร็งปากมดลูก ญี่ปุ่นเขาผลิตเป็นยาถูกต้องตามกฎหมายมานานเกือบ 30 ปีแล้ว และยังมีอีกหลายประเทศสกัดเอาเอ็นไซม์ของมันมาใช้ในการย่อยเซลลูโลส เป็นเอ็นไซม์ธรรมชาติ เพื่อทำกระดาษทิชชูสำหรับเด็กอ่อนและสุภาพสตรี
ขอให้โชคดีครับ

--- On Mon, 7/19/10, Packdee Tongon <packdee58@hotmail.com> wrote:


From: Packdee Tongon <packdee58@hotmail.com>
Subject: RE: ที่ดินบอกขาย
To: "ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล" <tbcbiotec@yahoo.com>
Date: Monday, July 19, 2010, 6:39 PM



อาจารย์ครับ ผมส่งรูปถุงเห็ดแครงชุดแรกที่ผมบ่มไว้ได้ครบ 19 วัน มาให้อาจารย์ดูครับ

ผมสังเกตเห็นการเกิดดอกเห็ดแทรกข้างจุกสำลีออกมาก่อนหน้านี้แล้ว

แต่ยังไม่ได้รัดปากถุงและกรีดด้านข้างตามคำแนะนำของอาจารย์

เนื่องจากโรงเรือนเปิดดอกเพิ่งจะทำเสร็จ ผมจะลงมือรัดปากถุงและกรีดด้านข้างวันนี้ครับ




--------------------------------------------------------------------------------

Date: Sat, 3 Jul 2010 09:26:40 -0700
From: tbcbiotec@yahoo.com
Subject: Re: ที่ดินบอกขาย
To: packdee58@hotmail.com; roongprasert@hotmail.com; cherrysci59@hotmail.com; fezclub@hotmail.com; anonbiotec_bee@hotmail.com

ขอขอบพระคุณท่านผู้การเป็นอย่างสูงที่เป็นธุระหาที่ดินให้ ผมจะรีบติดต่อและไปดูสถานที่ในเร็วๆนี้ครับ
สำหรับรูปเห็ดที่ส่งมาดูลักษณะเส้นใยเห็ดแครงเจริญได้ดีมาก แต่เชื่อแน่ว่า เส้นใยเห็ดแครงคงเจิญเข้าไปไม่ถึงก้นถุงแน่ๆ เพราะมันมักจะออกดอกเสียก่อน ครับลองดูสักระยะหนึ่งน๊ะครับ หากเส้นใยเดินไปได้เรื่อยๆ ก็ปล่อยให้มันเดินไปให้มากที่สุด แต่หากมันเกิดดอกด้วยการดันสำลีออกเป็นดอกเสียก่อน ก็คงต้องตัดสินใจรัดปากถุง แล้วนำไปกรีดให้เกดดอกด้านข้าง หรือปล่อยให้เป็นดอกคาปากถุงเช่นนั้นแหละในครั้งแรก จากนั้น ค่อยรวบแล้วรัดปากถุง แล้วกรีดให้มันออกดอกครั้งต่อไปด้านข้าง
ส่วนเรื่องการทำฟางให้นิ่มนั้น หากเป็นฟางข้าวโพดแล้วนิ่มได้ดังกล่าวด้วยระบบความดันก็นับว่าน่าสนใจมาก เพราะในฟางข้าวโพดอาหารดีมีมาก ทำเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า ได้ผลผลิตดู อยากจะให้ทำการทดลองไปให้ได้ผล ขอเอาใจช่วย หากมีเวลาว่าจะแวะไปเยี่ยม ขอบคุณครับ

--- On Sat, 7/3/10, Packdee Tongon <packdee58@hotmail.com> wrote:


From: Packdee Tongon <packdee58@hotmail.com>
Subject: ที่ดินบอกขาย
To: "ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล" <tbcbiotec@yahoo.com>
Date: Saturday, July 3, 2010, 2:45 AM


เรียน อ.อานนท์

วันนี้ผมไปทำธุระที่ตลาดลำนารายณ์ พบคนรู้จักกันบอกข่าวถึงที่ดินบอกขายแปลงหนึ่ง เป็นที่ นส.3 จำนวน 26 ไร่บอกขายไร่ละ 65,000 บาท อยู่ห่างจากตลาดลำนารายณ์ไม่ไกล ขับรถประมาณ 10 นาที ผมไปดูและถ่ายรูปแบบมาด้วยแล้ว ถ้าอาจารย์สนใจติดต่อเบอร์ 08-7268118 ลุงคาร์แคร์ (ผมยังไม่รู้จักชื่อจริงแก)

ผมแนบรูปถุงเห็ดแครงที่ผมทำมาให้อาจารย์ดูด้วย เขี่ยหัวเชื้อไปได้ 60 ชม. พอดี หัวเชื้อเห็ดแครงในขวดเดินเร็วมาก ผมมัวแต่พิจารณาหาวัสดุมาทำอาหาร จะสับต้นข้าวโพดกลัวเสียเวลาไม่ทันการ ผมเลยใช้วิธีผสมแกลบกับกากมันสำปะหลังด้วยอัตราส่วนแกลบ 1 กระสอบ 30 กก. กับกากมัน 15 กก. (เป็นกากมันเปียกที่ใช้เลี้ยงวัวนม) กับอาหารเสริมของอาจารย์ + จุลินทรีย์ UM ใช้แกลบไปทั้งหมด 4 กระสอบ แล้วหมักไว้หนึ่งคืน บรรจุถุง ทำได้ประมาณ 350 ถุง แล้ว sterilize นาน 15 นาที ปล่อยให้เย็นดีแล้วเขี่ยหัวเชื้อ ใช้หัวเชื้อไปไม่ถึง 30 ขวด หัวเชื้อที่เหลือผมทดลองคลุกกับฟางข้าวที่ sterilize นาน 5 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วห่อด้วยพลาสติกบางแบบที่ใช้หุ้มอาหาร เป็นก้อนใหญ่ ๆประมาณ 10-15 กก.
ผมได้เทคนิคชุบฟางให้เปียกและเอาออกจากถัง auto clave อย่างไม่หนักได้โดยบังเอิญ คือว่าผมยัดฟ่อนฟางแห้ง 5 ฟ่อน เข้าไปในถัง ปิดฝาให้สนิทแล้วต่อท่อจากระบบสูบน้ำในไร่เข้าทางท่อระบายน้ำออกของถังจนน้ำเต็มถัง เครื่องสูบน้ำที่ไร่ผมทำความดันได้ถึง 30 psi อัดแช่ไว้ไม่นาน แล้วผมปล่อยน้ำออกเหลือพอต้มทำไอน้ำ แล้ว sterilize ด้วยความดัน 15 psi ใช้เวลาไม่นาน ทิ้งไว้ให้เย็น ตอนเอาออกได้ฟางนุ่มความชื้นกำลังพอดี และไม่หนักมากครับ

ด้วยความนับถือ

พ.อ.ภักดี ตองอ่อน