การลดความร้อนในโรงเรือนด้วยหลังคา 2 ชั้น กับ การทำเพดาน

[KaiOtoko]

สวัสดีครับ อาจารย์,
ผม นายจิว สมาชิกเลขที่ 2552/P91/2403 เจ้าเก่าครับ
ต้องกราบขออภัยอาจารย์ด้วยครับ ที่ผมหายหน้าหายตาไปซะหลายวันเลยครับ จนกระทั่ง ได้ทราบว่า ตอนนี้ผมโดนพี่จิตร แย่งตำแหน่งไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากว่าช่วงปลายปี ผมมักจะมีธุระมากมาย ให้ต้องสะสางครับ จึงห่างหายจากฟอรั่มไปเล็กน้อย แต่ยังไง ผมก็ยังคงคิดถึงอาจารย์ และฟอรั่มนี้อยู่เสมอนะครับ วันนี้เลยรีบหาโอกาสเข้ามา กราบอาจารย์ และเยี่ยมเยียน ทักทายพี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกครับ
อาจารย์ครับ วันนี้ ผมมีคำถามมาขอความรู้อาจารย์อีกแล้วครับ คือสืบเนื่องจากคำถามของพี่จิตรเกี่ยวกับ การทำหลังคาโรงเรือนเพิ่ม เพื่อลดความร้อน ในกรณีที่หลังคาเป็นผ้าเต๊นท์ หรือผ้าไวนิลครับ
อาจารย์ได้บอกให้พี่จิตร ไปทำหลังคาเพิ่ม โดยให้เอาสแลนสีดำ ไม่ต่ำกว่า 85% ขึ้นไป มาขึงเป็นหลังคาเพิ่มอีกหนึ่งชั้น โดยให้สูงจากหลังคาเดิม อย่างน้อย 1 เมตร
ผมเลยอยากจะรบกวนถามอาจารย์ว่า ถ้าเกิดว่า เราทำเพดานไว้ ภายในโรงเรือนด้วย (ลักษณะคล้ายการทำฝ้าเพดานในบ้านน่ะครับ) โดยอาจจะใช้พวก ฟิวเจอร์บอร์ด มาทำเป็นฝ้าเพดาน ไม่ทราบว่า จะสามารถช่วยในการลดความร้อน ภายในโรงเรือนด้วยมั๊ยครับ หรือว่า ทำแบบหลังคาสองชั้น แบบที่อาจารย์บอกจะดีกว่าครับ คือว่า ผมเองก็อยากทำหลังคาเพิ่มอีกชั้นนึงอย่างที่อาจารย์บอกน่ะครับ แต่ก็เกรงใจข้างบ้านเค้าครับ เพราะถ้าทำ มันก็จะไปบังทัศนียภาพของข้างบ้านเค้า เพราะมันจะสูงเกินรั้ว มามากเลยนะ่ครับ เกรงว่าเค้าจะไม่พอใจน่ะครับ
รักและนับถืออย่างสูง
จิว (ศิษย์มีครู)

[Anonmushroom]

ผมว่า ในบรรดาผู้อบรมเห็ดที่ผ่านมา มีผู้ที่ทั้งกำลังเรียน และจบเป็นวิศวกรไปแล้วมากมาย แน่นอน คำว่าวิศวกรนั้น อาจจะมีมากมายหลายสาขา แต่ที่แน่ๆ ทุกสาขา ต้องผ่านการเรียนกลศาสตร์ขั้นพื้นฐานมาแล้วทั้งสิ้น ทำให้คิดถึงคุณแขก และหลายต่อหลายคน ที่ดูเหมือนระยะนี้เงียบหายไปหมด ผมว่า บรรดาวิศกรทั้งหลายน่าจะช่วยผมตอบปัญหานี้ได้ดีกว่าผมเสียอีก เพราะผมมันแค่วิศวะเกิน แต่ก็จากประสบการณ์ของผม ที่เคยทำโรงเรือนเพาะเห็ดแทบทุกรูปแบบ ทั้งที่ร้อนจัดเป็นทะเลทรายที่อินเดีย ที่ประเทศนามิเบีย ประเทศบอสวานา เป็นต้น หรือแม้กระทั่งหนาวจัด เช่น ที่แอฟริกาใต้ เนปาล ภูฎาน เป็นต้น ซึ่งหลักการง่ายๆ ที่คุณจะต้องคำนึงถึง คือ เห็ด มันต้องการทั้งอากาศบริสุทธิ์สูง อุณหภูมิปกติธรรมดา ระหว่าง 24-32 องศาเซลเซียส และความชื้นอยู่ในระดับ 80-85% แสงพอก้มดูหัวแม่ตีนเห็นว่า เล็บหัวแม่ตีนคุณยังอยู่ ก็ใช้ได้แล้ว นี่คือ โจทย์ ดังนั้น เวลาคุณจะสร้างโรงเรือนเพาะเห็ด คุณจะใช้วัสดุอะไร ให้เหมาะแก่เงินทุนที่มี หรือทัศนียภาพทั้งของคุณ และของข้างบ้านนั้น ก็ต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์เอา แต่สิ่งที่คุณจะต้องเอาวิชากลศาสตร์เข้ามาช่วยที่สำคัญก็คือ เรื่องของ การเปลี่ยนสถานะของน้ำ และการหักเหของแสง หมายความว่า หากน้ำเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป้นไอ มันจะดูดเอาความร้อนปฝงไปด้วย ก็จะทำให้เกิดความเย็นขึ้น ณ จุดที่น้ำระเหย หลักการนี้ เขาจึงทำตู้เย็นหรือพัดลมไอน้ำ แล้ว คุณก็ต้องรู้ว่า จะทำไงให้น้ำจากของเหลวให้เป็นไอล่ะ หากคุณนำไปต้ม ก็เท่ากับคุณเอาความร้อนมาเพิ่ม มันจึงมีทางเดียว คือ ใช้ลมเป่า หรือให้อากาศเคลื่อนไหว และให้ระดับความชื้นสัมพัทธ์ ณ จุดนั้นต่ำกว่าสิ น้ำมันก็จะระเหยได้ไว หากคุณรู้อย่างนี้ แล้วคุณ ยังจะเอาฟิวเจอร์บอร์ด หรือ พีพีบอร์ดหรือเอาผ้าพลาสติกไปทำเป็นเพดานได้ไง เดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นโรงฆ่าเห็ดแบบอีตาจิตรไปสิ ฉะนั้น ทางที่ดีที่สุด ในส่วนของเพดาน ควรเป็นกระสอบป่าน หรือสะแลนก็ได้ เพราะจะทำให้อากาศหมุนเวียนได้ ในส่วนความร้อนที่มาจากหลังคา พอมันมากระทบเพดาน ที่เปียกชื้น มันก็จะเร่งอัตราการระเหยได้เร็วขึ้น เพดานก็จะเย็น ความร้อนก็จะไม่ผ่านลงมาถูกก้อนเห็ด ทั้งนี้ ทั้งนั้น ส่วนของฝา ก็ต้องให้อากาศระบายได้ด้วย ไม่เช่นนั้น ก็จะกลายเป็นโรงอบเห็ดแบบของอีตาจิตรเปี๊ยบเลย สำหรับแสงก็เช่นกัน แสงแดดที่ส่องผ่านผ้าพลาสติก หรือไวนิลที่ใช้มุงหลังคา หรือมุงด้านข้าง ส่วนใหญ่แสงแดดจะถูกส่งมาในลักษณะของรังสีคลื่นสั้น เวลามันผ่านกระจก หรือผ่านพลาสติก รังสีคลื่นสั้น จะเปลี่ยนเป็นยาวขึ้น ก็จะเกิดความร้อนระอุขึ้น เรื่องแบบนี้ ผู้มีประสบการณ์สูงระดับโปรก็คือ นายจิตรของเรานี่แหละ แกทำโรงเห็ดแกได้ร้อนสุดยอดเลยทีเดียว วันหลังคงจะต้องเรียนเชิญมาเป็นวิทยากรบรรยายวิธีการทำโรงอบเห็ด(ฆ่า) ให้แก่สมาชิกทราบ คร่าวๆ อาจจะจัดสัมมนาเห็ดเล็กๆขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากไม่ได้ทำมานานแล้ว โดยคิดว่า คงจะจัดในวันที่ 15 มีนาคม 2554 ที่ อุทยานเห็ดอานนท์เวิลด์ ซึ่งจะเป็นการทำบุญ และเปิดตัวให้แก่สมาชิก เป็นการภายใน และเป็นการซ้อมครั้งแรก ก่อนที่จะถึงงานเปิดตัวใหญ่ในวันที่ 15 มีนาคม 2556 เรื่องนี้ คงต้องให้จิวเป็นผู้ประสานงานตั้งแต่นี้เป็นต้นไป โดยให้หนูหนึ่งเป็นเลขาไปพลางๆก่อนน๊ะ