อาการไมเกรนและโรคภูมิแพ้อย่างรุนแรง

[Pai_Anonworld]

คุณฐิติ เป็นสมาชิกผู้ผ่านการอบรมเห็ดท่านหนึ่ง ที่เป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ แต่มีโรคประจำตัวรุมเร้า โดยอาการเริ่มแรก เกิดอาการไมเกรนอย่างรุนแรง พอไปรักษาแล้วปรากฎว่า อาการยิ่งแย่กว่าเดิม และมีอาการแพ้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง จึงได้ขอคำแนะนำจาก ดร.อานนท์ พร้อมทั้งส่งรูปใบหน้าที่มีอาการบวมมาให้ดูด้วย โดยทาง ดร.อานนท์ ได้แนะนำคุณฐิติดังนี้

คำขอคำแนะนำจากคุณฐิติ
เรียนอาจารย์ครับ ผมธิติ รหัสสมาชิก P94/2563

ต้องกราบสวัดดีอาจารย์ครับ และต้องถามอาจารย์มายังอีเมล์ครับ
ตอนนี้ผมกำลังประสบปัญหาสุขภาพ หลังจากที่ได้ปรึกษาอาจารย์ไป
แล้วเรื่องปวดหัวไมเกรน แต่ผมก็ยังไม่ได้ทานอยากจริงจังครับแค่ลองทาน
อาทิตย์เดียวครับ ระยะหลังมีคนมาแนะนำอาหารเสริมยี่ห้อต่างๆ ผมก็เขว้ไปทานดู
จนลืมเห็ดของอาจารย์ครับ ระยะหลังไปนวดคลายเส้นก็พอทุเราบาง แต่ไม่รู้ว่าเป็น
ผลมาจากการฉีดยาหลังการนวดหรือเปล่า พอครบทุกเดือนต้องฉีดทุกครั้ง พอมาระยะหลัง
ทานยาอะไรก็ไม่ค่อยเห็นผลครับ ถ้าคืนไหนตืนมาตอนเที่ยงคืนแล้วไม่ปวดหัว คืนนั้นผมจะ
นอนสบายมาก ตอนนี้ขอแค่ตื่นมาไม่ปวดหัวตอนเช้าก็มีความสุขครับ

อาจารย์ครับ ผมขอส่งรูปมาให้อาจารย์ช่วยวิเคราะห์ครับ ผมมีอาการแพ้ทุกอย่างครับ
ร้อนก้แพ้หนาวก็แพ้ อาหารทะเลก็กินไม่ได้ เวลาอากาศเปลี่ยนตัวผมจะคัน บางครั้งก็จาม
ร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันเลยครับ ยิ่งเวลาตากแดดหน้าจะแดงตลอดเวลา มีตุ้มขึ้นคันตามตัว
เป็นลักษณะหนองครับ พอบีบเอาหนองออกจะบวบและจะโตขึ้นครับ ต้องทานยาแก้แพ้ทุกวันครับ

ส่วนที่หน้าผมใช้อะไรไม่ได้เลยครับ แพ้หมดเคยไปหาหมอรักษาแต่ไม่หาย หมอบอกว่า
ไม่ใช่สิวแต่เป็นโรคที่เกิดจากภายใน เหมือนในร่างกายมันร้อน อักเสบไปหมดเลยระบายออกมาทางผิวหน้า
ปวดแสบปวดร้อนมากครับ

ยิ่งเวลากวนหนวดครับยิ่งอักเสบเป็นทวีคูณ ต้องใช้หน้ากากปิดเวลาออกไปทำงานครับ

ผมควรเริ่มรักษาอย่างไรครับอาจารย์ เพราะหมดหนทางแล้วครับ เกือบสิบปีที่ผ่านมาหาหมอตลอดครับ
ถ้าทานเอมไซต์และเห็ดเป็นยาต้องทานมากขนาดไหนครับ

ขอบพระคุณครับ

ธิติ แตงผัน


ตอบโดย ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล

ถึงคุณฐิติ

จำได้ว่า คุณมีปัญหาเรื่องของโรคไมเกรน ก็ได้พยายามค้นหาหลักฐานและรายละเอียดของคนป่วยที่เคยมาปรึกษาและก็รักษาอาการที่ค่อนข้างได้ผล ดังที่คุณคงได้รับทราบไปแล้ว ทีนี้มาถึงวันนี้ ดูจากอาการที่คุณส่งรูปมาให้ดูนั้น มันไม่ใช่ไมเกรนอย่างเดียวเสียแล้ว จริงๆแล้ว ต้นเหตุของไมเกรนของคุณน่าจะมาจากการแพ้อย่างรุนแรงต่ออากาศ และหรืออาหารที่ทานเข้าไป เพราะดูอาการจากรูปมันน่าจะรุนแรงมาก ซึ่งแน่นอนที่สุด นี่คือ อาการของภูมิคุ้มกันในตัวคุณบกพร่อง การแพ้อากาศนั้นยังค่อยยังชั่วกว่าอาการที่คุณเจอ เพราะการแพ้อากาศ อย่างมากก็น้ำมูกไหล คันจมูก แต่ของคุณมันเกิดตุ่ม บวมด้วย จึงถือว่าค่อนข้างรุนแรง และการรักษาด้วยการใช้ยาไม่น่าจะได้ผล เพราะมันเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาต่อต้าน หรืออาจจะใช้ยาไปกดภูมิอีกชนิดหนึ่ง มันจะส่งผลไปถึงความสมดุลย์ของภูมิต้านทานต่างๆในร่างกายคุณไปหมด ทางที่ดี ควรจะหันมาดูทางด้านอาหาร อย่างผมเอง เคยเป็นภูมิแพ้อย่างรุนแรง โดยหมอจะต้องให้กินยาแก้แพ้ Antihistamine ทุกวัน เมื่อกินแล้วน้ำมูกจะหยุดไหล แต่อารมย์ฉุนเฉียว ง่วง ซึมตลอดเวลา และนานวันต้องเพิ่มปริมาณยาสูงขึ้น ผลแทรกซ้อนก็มีมากขึ้น ตอนหลังผมเล่นหักดิบเลย โดยงดกินยาแผนปัจจุบันทุกชนิด หันมากินของสด โดยเฉพาะ ผักสด ผลไม้ นมเปรี้ยว และเห็ดที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ เช่น เห็ดตระกูล เห็ดหิ้งหรือเห็ดกระด้าง เช่น เห็ดหลินจือ เห็ดจิก เห็ดกระถินพิมาน เห็ดช้อนซ้อน เป็นต้น หรือ อาจจะมาใช้เห็ดเป็นยาที่มีฤทธิ์เสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกายก็ได้ แต่จริงๆแล้ว ผมอยากให้คุณหาเห็ดที่ราคาไม่แพง เช่น เห็ดหลินจือ ก้ได้ เรื่องนี้ อาจจะถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสมาชิกของเรา เช่น คุณบรรจง ก็ได้ เพราะแกก็มีประสบการณ์เรื่อง เห็ดหลินจือพอสมควร หรือ อาจจะขอรายละเอียดที่จะทำการเพาะเห็ดพวกนี้ เอามาใช้ทานเอง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก ในบรรดาตระกูลเห็ดหิ้งดังกล่าวนี้ มันได้สร้างความมหัศจรรย์ขึ้นที่อานนท์ไบโอเทคเมื่อเร็วๆนี้ด้วย โดยคนงานของทางอานนท์ไบโอเทค เป็นคนงานเก่าแก่ ที่ทำกับอานนท์ไบโอเทคมานานแล้ว เป็นพนักงานที่นิสัยดีมาก ขยันขันแข็ง คิดว่า ทุกเคยที่เคยเข้าไปที่อานนท์ไบโอเทค คงเคยเห็นหน้าแก เพราะแกจะเป็นหัวหน้าคุมเรื่องการทำหัวเชื้อและทำก้อนเชื้อ ชื่อ นางละมัย แกมีโรคประจำตัว คือ อยู่ดีๆ แกก็จะหมดสติ เป็นลมชักอยู่บ่อยครั้ง พอไปหาหมอ หมอก็ให้ยากันชักมาให้ ปรากฎว่า เกิดอาการแพ้ เป็นผดผื่น บวมทั่วไป ต้องเปลี่ยนยาไปเรื่อย แต่อาการชักก็เกิดบ่อยยิ่งขึ้น ทั้งๆที่ไปตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำ แต่แพทย์ยังไม่สามารถค้นหาสาเหตุได้ เมื่อยิ่งทำการรักษาอาการของนางละมัยกับแย่ลง พวกเราจึงเสนอให้นางละมัยตัดสินใจว่า จะลองการรักษาด้วยเห็ดหิ้งอย่างเดียวไหม โดยให้หักดิบไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน แต่ให้นางละมัยทำการเพาะเห็ดหลินจือเองที่อานนท์ไบโอเทคและเห็ดหิ้งอื่นๆอีก 2 ชนิด ใช้ทั้งเส้นใยและดอกเห็ดมาบดและต้มทานต่างน้ำ ปรากฎว่า ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน อาการการชักเริ่มห่างขึ้น และนี่เวลาผ่านไปแล้วเกือบ 6 เดือน โดยไม่มีการชักเกิดขึ้นอีกเลย นี่เป็นประสบการณ์ที่ได้ใช้กับคนในอานนท์ไบโอเทคด้วยกัน ดังนั้น จึงอยากแนะนำให้คุณลองด้านนี้ดู เพียงแต่ว่า คุณจะต้องหนักแน่นที่อาจจะต้องใช้เวลา ที่จะทำให้ภูมิต้านทานของคุณกลับมาดังเดิมครับ ส่วนเรื่องจะทำอย่างไร ที่จะลดค่าใช้จ่ายให้คุณได้ เรามาช่วยกันหาทางครับ ผมได้สั่งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยคุณอย่างเต็มที่ ขอให้คุณโทรไปหาเจ้าหน้าที่ของเราได้ครับ

[Pai_Anonworld]

ทั้งคำถามและคำตอบอยู่ในกระทู้แล้ว หากคุณบรรจงแวะมาเยี่ยมกระทู้ ขอให้ช่วยแนะนำเรื่องประสบการณ์การใช้เห็ดหลินจือ เป็นวิทยาทานด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ไผ่

[?????]

ขอโทษครับ ที่มาแสดงความคิดเห็นช้า เพราะว่า งานเยอะเหลือเกิน

ตอนนี้ ผม ก็เจอ รุ่นน้องที่เป็น แบบ คุณ ธิติ อีกคน เหมือนกัน กำลังใช้ หลินจือทดลองรักษาอยู่ ให้เค้าต้มกิน ธรรมดา แรก ๆ เมื่อกินเข้าไป ก็มีตุ่มตามตัว ใส ๆ ขึ้น คัน คิดว่า นั่น เป็นอาการเริ่มแรก ที่ กินหลินจือ
และอีกคนหนึ่ง อยู่ที่จันทบุรี
เป็นผู้ชาย คนนี้ ก็ แพ้ พวก แมลง พวกฝุ่น ถ้าเป็นขึ้นมา ก็ ทำอะไรไม่ได้เลย
หลังจาก กิน เห็ดดอง แล้ว อาการต่าง ๆ ก็ทุเลา ลง ไม่ค่อย เกิดอาการแพ้ ง่าย ๆ เหมือนเดิม


ต้องขออกตัวนะครับ ว่า ผมยังมีความรู้น้อย
ในส่วนของ ไมเกรนนั้น เกิดจาก ความเครียด ทั้งทาง กายและจิตใจ ข้อ นี้ ไม่ยากครับ

สวดมนต์ไหว้พระ ประจำ นั่งสมาธิ ปล่อยวาง บ้าง แต่ก็ขอให้ทำทุกวัน วัน ละ 5 -10 นาที วิธีทำนั้น หา อ่าน เอา จาก เวป ครับ
ข้อนี้ ผมรับรอง ว่าช่วยได้ เพราะผมก็เป็นอยู่ ชนิดที่ว่า ปวดจน หน้าตาบวมเลยทีเดียว แต่พอมาเริ่มทำ สมาธิสวดมนต์ อาการ ไม่เกรน ไม่เคย เป็นอีกเลย มาเป็น ปีแล้วครับ

ส่วนวิธีการใช้เห็ดหลินจือนั้น
ผมซื้อก้อนเชื้อหาจากใน อินเตอร์เนต มาเปิดดอก เอง แรก ๆ ก้อนละ 20 บาท เดียวนี้ถูกแล้ว ก้อนละ 8-10 บาท หรือ พี่จะ ซือ กับทาง ศูนย์ ก็ได้ ลองติดต่อดูครับ

วิธีทำกิน นั้น ก็ มี วิธี ที่ผมใช้นะครับ
1 การดอง ผมใช้ ส่วน ที่กำลังเป็นเส้นใย ส่วนที่ เส้นใย เริ่มรวมตัว กันเป็นดอก ดอกแก่ และ สปอร์
ให้นำทั้งหมด มา หัน ให้เป็นแผ่นบาง ๆ ยกเว้นสปอร์ โดยการ ใช้แปรง ปัด ๆ รวม ๆ ไว้ ใส่ในขวด
ต้มน้ำเกลือ ที่ พอชิมดู ว่า เค็ม ๆ ทิ้งไว้ให้เย็น ยำนะครับ ว่าทิ้งให้เย็น เพราะว่าหากเทลงไป ในเห็ด ที่เตียมไว้ ความร้อน ของ นำเกลือที่เดือด ประมาณ 100 องศา จะทำลาย เอนไซม์ได้ อุณหภูมิ ต้อง ไม่เกิน 45 องศา
เมื่อได้ทุกอย่างครบแล้ว ก็หาโหล สะอาด ๆ มาเอาเห็ด ทั้งหมดใส่รวมถึง สปอร์ เทน้ำเกลือ ที่เตรียมไว้ ใส่ลงไป เอา ข้าวสุกใส่ ลงไปเล็กน้อย ปิดฝา แล้ว เอา ไปตั้งตาก แดด จัด ๆ ซัก วันสองวัน จะมีรสชาติเปรี้ยว ๆ มีกลิ่น เปรี่ยว เอาน้ำ ดองมากิน ครับ ส่วน สปอร์นั้น
ให้ใส่รวมกันไปด้วย แล้ว เอา นมเปรี้ยวสัก ช้อนโต๊ะ เชื้อ ยูเอ็ม 92 ใส่ไปด้วย เล็กน้อย เพื่อให้จุลินทรีย ย่อยสลาย ผนังสปอร์และสร้างเอนไซม์รวมทั้งยาจากเห็ดออกมาด้วย วิธีการนี้ ต้องทำให้สะอาดที่สุดนะครับ เพื่อ ป้องกัน เชือจุลินทรี ที่มีโทษ ปนเปื้อน
พยายามอย่า ให้นำเกลือ หมดจากโหลครับ ให้เติม แล้ว ตากแดด ไว้
วิธีกิน ก็ มือ้ละช้อน โต๊ะ ก่อนอาหาร สัก ครึ่งชั่วโมง ครับ

วิธีที่ 2 คือการต้ม ครับ
วิธีนี้ง่าย ๆ คือ จะเอา ดอก แก่ หรือ เส้นใย ที่รวมตัว เป็นดอก มาหั่น บาง ๆ ตาก แดด แล้วต้มดื่ม แทนน้ำ ครับ

ถ้าพี่กินน้ำดองเห็น จะมีอาการโรคภูมิแพ้เกิดขึ้นนะ ครับ ให้ กิน ต่อไป เรื่อย ๆ ถ้าอาการมาก ให้ กินลดขนาดลง ถ้าไม่มี ให้กินต่อไปเรื่อย ๆ ครับ

สุดท้าย ผม เข้าใจ ว่า แม้ว่า เรา จะ พยายามมากแค่ไหน ก็เอา ชนะ ธรรมชาติของโรคไม่ได้
อยู่ที่ เรา เลือก ว่าจะ อยู่ กับโรคยังไง ในแบบของธรรมชาติ
ขอให้อาการดีขึ้นครับ

หากพี่ ยังสงสัย กับ ข้อความที่ ฝากไว้ ติดต่อ ผมได้ ครับ
082-485-9599 บรรจง ครับ

ขอบคุณอาจารย์ อานนท์ และ คุณไผ่ ครับ ที่ให้ความรู้ กระผม ที่ใช้ได้จริง

[Pai_Anonworld]

ได้ขอบคุณ คุณบรรจงมาแล้วหลายครั้งที่ช่วยแนะนำและนำเอาประสบการณ์เกี่ยวกับเห็ดเป็นยามาเล่าให้กันฟัง และก็ยินดีที่คุณบรรจงได้เข้ามาเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบที่ผ่านการอบรมด้วยตัวเอง นี่แหละครับสปริตของผู้ผ่านการอบรม ที่เราถือว่า เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ที่ใครมีอะไรดีก็นำเอามาเล่าสู่กันฟัง
สำหรับเรื่องการหมักที่คุณบรรจงแนะนำมานั้น ถือว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะได้นำเอาส่วนต่างๆของเห็ดที่มีสรรพคุณทางยา ที่อยู่ในส่วนต่างๆของเห็ดที่ต่างกัน มีคุณค่าทางยาแตกต่างกันไป เอามาผสมผสานกันอย่างน่าสนใจทีเดียว อย่างไรก็ตาม ดร.อานนท์ฝากข้อเสนอเพิ่มเติมมาว่า ในการดองนั้น หากใช้น้ำตาลทรายแดงหรือกากน้ำตาลมาใช้เป็นสารอาหารที่ใช้ในการดองแทนเกลือน่าจะดีกว่า เพราะจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ทำงานได้ดีกว่าเกลือ ซึ่งจะเป็นพิษหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เช่น เชื้อยูเอ็ม

[?????]

ขออนุญาติ อาจารย์ ครับ
หลังจาก ที่ ได้ เอา ดอกเห็ด หลินจือ แก่ ให้เด็กคนหนึ่งที่มีอาการ แพ้อย่างรุนแรงอย่างคุณ ฐิติ
คือ เด็กคนนี้มีอาการ แพ้ แดด ฝุ่นละออง ถ้าโดนแดด จะมีอาการตุ่มน้ำใสๆ ขึ้น และบวม แดง และเป็นแผล แตก โดยเฉพาะที่หน้าของน้องเค้า น่าสงสารมากครับ
ผลเลย แบ่งหลินจือ ที่ เพาะ ไว้ไปให้เค้าต้มกินก่อน แต่ยังไม่ได้ ให้ไปดอง เพราะต้องทดลอง ดอง ด้วยตัวเองก่อนซักระยะ

ผลเมื่อกิน หลินจือต้ม ครั้งแรก นั้น เค้าบอกกับผมว่า เค้ารู้สึกดีขึ้น เค้าเปรียบเทียบให้ฟังว่า ระหว่างยา ของโรงพยาบาล กับ กินหลินจือ นั้นแตกต่างกัน
ยาโรงพยาบาล เมื่อก่อนนั้นเมื่อกินแล้ว จะเกิดอาการแพ้ หากเกิดอาการแพ้ขึ้นจะ มีตุ่มใส ๆขึ้นตุ่มน้ำนี้จะ แตกแล้วเป็นแผลและหายยากมาก
แต่เมื่อกิน เห็ดหลินจือร่วมด้วย ปรากฏว่า เกิดตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นเหมือนกัน แต่ แปลกกว่าตรงที่ว่า ตุ่มน้ำที่เกิดขึ้น จะไม่แตกออกให้เป็นแผล
แต่ตุ่มน้ำใสๆ ที่ขึ้นตามผิวนั้น จะ ฝ่อไปเอง ครับ
ส่วน แผล ที่แก้ม ที่บวมแดงมาตลอด เป็นเดือน ตอนนี้ เริ่ม แห้ง และใก้ลจะหาย แล้ว

ได้ผลเช่นไรต่อ แล้วจะมารายงาน ให้อาจารย์ทราบครับ