วันนี้ ดร.อานนท์ และคณะไปเยี่ยมฟาร์มผู้พัน ผู้เพาะเห็ดหิมะ รอยต่อระหว่างปากช่อง ลพบุรีและสระบุรี

[Pai_Anonworld]

ดร.อานนท์ และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมฟาร์มเห็ดผู้พัน ของ พอ.ภักดี ตองอ่อน ที่ทำการทดลองเพาะเห็ดหลายชนิด และท่่านได้กรุณาถ่ายทอดประสบการณ์อันทรงค่ายิ่งผ่านทางเวปไซด์อานนท์ไบโอเทคมาโดยตลอด คณะของเราประกอบไปด้วย ผม(ไผ่)เป็นผู้ขับ ดร.อานนท์ อ.เยาวนุช และคุณปรีชา(เจ้าของฟาร์มเห็ดปทุม) ออกเดินทางประมาณเกือบ 10 โมงเช้าไปตามถนนพหลโยธินแล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนมิตรภาพสระบุรี นครราชสีมา ถึงทางเข้าปากช่องประมาณ 4-5 กม.เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกเลยสถานีตำรวจภูธร ปากช่องไปตามถนนสาย 2247 ไปอีก 40 กม. ตรงหลัก กม. ที่ 40(แต่อาจจะสับสนกับตัวเลขหลัก กม. ทางที่ดี ให้กดเข็มไมล์วัดระยะทางไปเลย ประมาณ 39 กม. จากสามแยก) ไร่ของผู้พันจะมีป้ายชื่อ ไร่ผู้พันที่เห็นได้ชัดเจนมาก เพราะตรงนั้น มีบ้านหลังเด่นอยู่เพียงเจ้าเดียว หลังคาสีฟ้า ท่านผู้การภักดีและภรรยาได้ให้การต้อนรับคณะของ ดร.อานนท์ ไปเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆของท่านผู้การ ด้วยความยินดี และดีมาก ที่ได้เห็นท่านผู้การภักดี มีไอเดียดีๆสุดยอด ในการคิดสร้างสรรค์ผลงานในหลายๆเห็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห้ดหิมะ หรือ เห็ดหิมาลัย ซึ่ง ทางเราจะทยอยรายงานความคืบหน้าต่อๆไป นอกจากนี้ ท่านผู้การภักดี ก็ได้พาชมบ้านหลังใหญ่ ที่สร้างไว้อย่างดี มีห้องโถงขนาดใหญ่ มีห้องนอนที่รับแขกมาเยือนได้ขนาดที่พักได้ 2 ท่าน 12 เตียง พร้อมห้องน้ำ มีทั้งหมด 4 ห้อง เอาไว้คอยต้อนรับแขกเหรื่อ พรรคพวกเพื่อนฝูง ที่สำคัญที่สุด คือ คนคอเห็ดเดียวกัน หมายความว่า ผู้ที่สนใจเรื่องเห็ด และอยากจะทำการเพาะเห็ดเป็นอาชีพ แต่ก็ยังไม่ทราบจะเริ่มต้นอย่างไร ท่านแจ้งว่า ท่านยินดีที่จะสอนให้ สามารถไปดู ไปทำ และไปปฏิบัติจากของจริงได้ที่นั่น หรือ จะไปทำการผลิตเองที่นั่นได้เลย ด้วยการเช่าเครื่องไม้เครื่องมือ ผลิตกันที่นั่น ผลิตเสร็จท่านก็เอากลับไปเลย อย่างนี้เป็นต้น นี่คือ ความหวังหรือความปรารถนาสูงสุดของท่านผู้การ หลังจากที่ท่านได้เผยแพร่ผลงานและบอกกล่าวเพื่อนฝูงไปทางเวปไซด์ทั้งในและต่างประเทศ ปรากฏว่า ได้มีผู้สนใจจากต่างประเทศจำนวนค่อนข้างมาก ประสงค์ที่จะมาดูงาน และมาพักผ่อน พร้อมทั้งเรียนวิธีการเพาะ ชนิดที่จองกันเต็มไปจนถึงต้นปีหน้า แต่สำหรับคนไทยนั้น ท่านบอกว่า ยินดีต้อนรับ แต่เนื่องจาก ท่านทำกันในครอบครัว ไม่มีคนงาน ไม่มีลูกจ้าง หากมีงานมาก ก็อาจจะจ้างแรงงานจะคนละแวกนั้นมาช่วยเป็นครั้งคราว ดังนั้น ท่านแจ้งและขอย้ำว่า ท่านที่จะไปดู ไปเยี่ยมท่าน ควรจะเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมเห็ดจากสถาบันอานนท์ไบโอเทคไปเสียก่อน เพราะท่านถือว่า ผู้ที่ผ่านการอบรมจากสถาบันอานนท์ไบโอเทคไปแล้ว เป็นผู้ที่มีพื้นความรู้เกี่ยวกับการเพาะเห็ดเบื้องต้นไปแล้ว ท่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลาที่จะมาเริ่มต้นกันใหม่อีก เพราะงานทุกอย่างที่ท่านทำ ท่านจะต้องเป็นผู้ที่ลงมือลงแรงเอง ไม่มีเวลาพอที่จะสอนตั้งแต่เริ่มต้นเหมือนทางสถาบันอานนท์ไบโอเทค การเดินทางไปเยี่ยมกิจกรรมของ ท่านผู้การภักดีครั้งนี้ คุณปรีชาและท่านผู้การ จะเป็นผู้นำเสนอเกี่ยวกับรูปที่ถ่ายบันทึกไว้ร่วมกันต่อไป ในชั้นนี้ ทางคณะของ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ขอกราบขอบพระคุณท่านผู้การภักดีและครอบครัว ที่ให้การต้อนรับคณะของเราอย่างอบอุ่น และท่านได้มอบถุงเพาะเห็ดหิมะ 2 ถุง เพื่อใช้ในการนำไปโชว์ในงานสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 10 ที่ผ่านมาด้วยความขอบพระคุณยิ่ง

[preecha chotklang]

" />

ถ่ายรูปร่วมกันไว้เป็นที่ระลึก

[img][/img]

ขอผมร่วมแจมด้วยอีกคน

" />

การหมักวัสดุเพาะเห็ดของผู้การภักดี โดยใช้เปลือกมัน

" />

ดร.อานนท์ กับ ท่านผู้การภักดี กำลังสนทนาการทำเชื้อเห็ดหิมะ

" />

ถ่ายรูปร่วมกับเห็ดที่ท่านผู้การเพาะไว้

" />

ขนาดดอกเห็ดที่ท่านผู้การภักดีได้ทำการทดลองเพาะไว้

[img][/img]

ต้นโสนที่ท่านผู้การภักดีได้ใส่เชื้อเห็ดตับเต่าไปด้วย มีขนาดต้นใหญ่มาก

[Pai_Anonworld]

เป็นสัญญานอันดี ที่ทำให้เกิดความหวังและกำลังใจ ที่ทำให้ย้อนถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต อันเนื่องจากความร่วมมือและความเสียสละของสมาชิกผู้ผ่านการอบรมและผู้สนใจเห็ดตั้งแต่ปี 2515 เป็นต้นมา ซึ่งขณะนั้น เราแทบไม่มีความรู้เรื่องการเพาะเห็ดกันเลย ได้แต่นำเห็ดเข้ามาจากต่างประเทศปีละหลายร้อยล้านบาท และคนไทยทานเห็ดโดยเฉลี่ยไม่ถึง 300 กรัมต่อคนต่อปี แต่หลังจากที่ ดร.อานนท์ ได้ทำการสอนเรื่องการเพาะเห็ดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ่านทางชมรมเห็ด ที่ตั้งขึ้นโดยบรรดานิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัย และด้วยกำลังใจและความร่วมมือของสมาชิกอย่างแรงกล้า ซึ่งครั้งนั้น ท่านผู้การคงมียศเป็นสิบเอกอยู่ที่ได้เข้าไปอบรมกับ ดร.อานนท์ ด้วยพลังดังกล่าวแค่ 5 ปีให้หลัง ประเทศไทยสามารถเพาะและผลิตเห็ดฟางมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก และได้มีการก่อตั้งสมาคมนักวิจัยและเพาะเห้ดแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นผลสำเร็จ โดยกราบบังคมทูลสมเด็จพระรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาเป็นองค์ประธานเปิดป้ายสมาคมในปี 2521 การเพาะเห็ดของประเทศไทยได้เจริญรุ่งเรืองด้วยดีมาโดยตลอด ทำให้ปัจจุบัน คนไทยทานเห็ดซึ่งเป็นอาหารที่มีประโยชน์และเป็นทั้งอาหารและยาในปริมาณที่ไม่ต่างจากประเทศที่เจริญแล้ว โดยทานเห็ดไม่ต่ำกว่า 6 กก.ต่อคนต่อปี มีผู้เพาะเห็ดกันแทบทุกหัวระแหงทั่วประเทศ จนกระทั่ง เห็ดกลายเป็นส่วนหนึ่งในส่วนประกอบในการปรุงอาหารของคนไทยไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การรวมกลุ่มกัน การร่วมกันทำกิจกรรมเกี่ยวกับเห็ด กลับมีน้อยลง ส่วนใหญ่ก็เป็นลักษณะต่างคนต่างทำ ดูจากงานมหกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับอาหาร รวมทั้งสมุนไพรนั้น ทุกครั้งจะมีบุคคล บริษัท ห้างร้านที่ผลิตสินค้าเกี่ยวกับเห็ดไปร่วมออกงานกันทุกครั้ง ไม่ใช่แค่เพียงรายสองราย บางโอกาสมากกว่าครึ่งของผู้ที่นำเอาสินค้ามาแสดง แต่ก็กระนั้นเถอะ ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่ต่างคนต่างทำ ซึ่งในแง่ส่วนรวมของวงการเห็ด ไม่ได้สร้างผลดีอะไรเลย ต่างกับอาชีพหรือธุรกิจการผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ที่มักจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีและพลังร่วมกัน มาถึงวันนี้ ได้เห็นถึงน้ำใจของท่านผู้การภักดี และคุณปรีชา ที่พยายามทำการศึกษาค้นคว้าทดลอง และมีอะไรดีๆใหม่ๆ ก็นำมาเสนอให้แก่สมาชิกหรือสาธารณชนทราบเช่นนี้ ทำให้เกิดความหวังขึ้นว่า นี่แหละ ที่จะเป็นจุดผลักดันให้บรรดาผู้ที่ทำการเพาะเห็ด จะต้องมารวมพลังกันเพื่อความยิ่งใหญ่ของวงการเห็ดอีกครั้ง และต่อไป เราจะต้องรวมกัน ช่วยกัน จัดงาน จัดมหกรรมเกี่ยวกับเห็ดกันให้มากขึ้น ถี่ขึ้น และกระจายไปในทุกส่วนที่น่าจะเป็นไปได้ โดยครั้งต่อไป คิดกันว่า เราน่าจะเตรียมพร้อม ที่จะรวมกันไปจัดมหกรรมเกี่ยวกับเห็ดในเทศกาลต่างๆเกี่ยวกับอาหารและสุขภาพ รวมทั้งสมุนไพร และจะสนับสนุนคุณปรีชาเป็นฟาร์มตัวอย่าง ที่ทำเห็ดแบบครบวงจร เพื่อจะใช้เป็นโมเดลในการขยายเครือข่าย รวมทั้งที่จะพัฒนาอุทยานเห็ดนานาชาติ และพื้นที่ขนาดใหญ่ใกล้พัทยาในโอกาสต่อไป จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้ยิ่งใหญ่ให้ได้