[size=24] ทำไมต้องอัดก้อนเชื้อให้แน่นๆด้วยครับ[/size]

[Pai_Anonworld]

ทำไมต้องอัดก้อนเชื้อให้แน่นๆด้วยครับ

ตั้งหัวข้อ thepnanakon Yesterday at 3:46 pm
สวัสดีครับท่านอาจาร์ครับ
ผมสนใจเกียวกับเรื่องเห็ดมากครับ
แต่ว่างานประจำ (วิศวกรออกแบบ) และที่อยู่อาศัยไม่เอื้ออำนวยครับ
ถึงตอนนี้ พอมีช่องทางที่จะตั้งโรงเห็ดครับ ผมจึงต้องการข้อมูลครับ

1.ถ้าผมต้องการผลิตเห็ดที่ขายได้ทั้งปี ควรเป็นเห็น นางฟ้าภูฐานใช่มั้ยครับ
2.ถ้าต้องการขายให้ได้เดือนละประมาณ 3-5 หมื่นบาทผมต้องมีเห็ดประมาณกี่ก้อนครับ
3. โรงเห็ดแบบ อีแวป ถ้าผมสร้างเองได้ ควรทำมากกว่าโรงเห็ดแบบธรรมดาใช่มั้ยครับ

4.ก่อนเชื้อเห็ดเราควรทำเอง หรือว่าซื้อเขาดี ตอนที่เราผลิตจำนวนมากๆ
5.ก้อนเชื้อเห็ด เราทำช่องออกมากกว่า 1 ช่องได้ไหมครับ ผมดูของต่างประเทศ เขาทำถุงใหญ่มาก ไม่อัดแน่น แขวไว้และเจาะรู ประมาณ 6รูรอบถุงครับ เห็ดออกเกือบทุกช่องเลยครับ ลักษณะดอก เหมือนเห็ดนางฟ้าบ้านเราครับ

6. อีกรายเขาผลิตใส่ขวดเหมือนขวดนมครับ ใช้เครื่องผลิตเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ ของเกาหลีครับ บ้านเรามีผลิตแบบนั้นบางมั้ยครับ ถ้ายังไม่มีแล้วเราลงทุนทำ รายได้มานจะต่างจากโรงเห็ดแบบ อีแวปมั้ยครับ

7.ทำไมเวลาเราทำก้อนเชื้อเห็ดเราต้องอัดให้แน่ๆด้วยครับ

ทั้ง7ข้อนี้ต้องขอคำชี้แนะจากท่านอาจารย์ด้วยครับ
ผมสงสัยมานานแล้วครับแต่หาท่านผู้รู้ไม่ได้ครับ เนื่องจากเป็นงานคนละสายงานกันครับ

ขอความกรุณาท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะแนวทางด้วยนะครับ

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

[Pai_Anonworld]

ขอตอบคำถามคุณเป็นข้อๆดังนี้ครับ
1. ไม่กล้าฟันธงแบบหมอลักษณ์ครับ มันอยู่ที่ว่า จะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องรู้จริง เข้าใจในเนื้อหาสาระอย่างละเอียดถี่ถ้วนจริงๆ และสำคัญต้องศึกาาเกี่ยวกับตลาดเสียก่อนว่า ความเป็นไปได้มันควรเป็นเห็ดอะไร เพราะปัจจุบันนี้ เห็ดอะไรก็ตาม ที่โลกใบนี้เขาเพาะกัน เราก็เพาะได้แทบทั้งนั้น แต่หากให้ฟันธงว่า เห็ดที่ง่ายๆ เพาะได้ทั้งปี ตลาดค่อนข้างใหญ่ เพราะคนทั่วไปรู้จักดี ก็ได้แก่เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าภูฎาน(ไม่ใช่ภูฐาน) จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเพาะเห็ดที่จะต้องไปดูแลหรือปฎิบัติอะไรที่สลับซับซ้อน
2. นี่ไม่ทราบว่า คุณจะเอารายได้จากยอดขาย หรือกำไรล่ะ หากเป็นยอดขาย 3-5 หมื่นบาท ก็เฉลี่ยวันละ 1,200 บาท เท่ากับเห็ดประมาณวันละ 30-40 กก. ก็ควรจะมีก้อนเชื้อหมุนเวียนประมาณ สักหมื่นก้อนสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป
3. มีหลายคนคิดเช่นนั้น โดยเฉพาะบรรดาที่จบทางช่างมา มักจะคิดพลิกแพลงดัดแปลงสารพัด เรื่องของโรงอีแวปก็เช่นกัน มีการคิดกันมานาน และก็มีการทำกันมานาน บางรายเพาะในโรงอีแวปเพราะตกกระไดพลอยโจนที่มีโรงอีแวปสำหรับเลี้ยงไก่อยู่แล้ว จึงเอามาเพาะเห็ด แต่พอเอาจริงๆ ก็ไม่มีใครดำรงอยู่ได้นานๆ เพราะเวลาคุณอยู่ในธุรกิจเห็ดจริงๆ คุณจะเห็นว่า เห็ดก็เป็นสิ่งมีชีวิตทั่วไป บางครั้ง เราอาจจะมองความต้องการของมันเฉพาะปัจจัยบางอย่างเท่านั้น เช่น ความชื้น เราก็จะเหมาเอาว่า ความชื้นมันต้องสม่ำเสมอตลอดไป ก็เหมือนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่เขาฉวยโอกาสช่วงที่ไก่เป็นไข้หวัดนกสิ เอาวิกฤตนี้ ไปทำลายธุรกิจการเลี้ยงไก่แบบปล่อยหรือไก่บ้านอย่างราบคาบ รวดเร็วทันใจ โดยเสนอว่า การเลี้ยงไก่ ต้องเลี้ยงแบบปิด และใช้อีแวปเท่านั้น แล้วเป็นไง ตอนนี้ ไก่่ไม่ได้เป็นโรคหวัดนกแล้ว แต่มันเป็นโรคปอดชื้นกันไปหมด ต้องถอดเอาอีแวปทั้งกันเกลื่อนไปหมด ดังนั้น หากคุณจะเพาะเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าภูฎาน ไม่จำเป็นไปทำโรงอีแวปเลย เอาเครื่องพ่นหมอกแบบอุลตราโซนิคก็สุดยอดแล้ว เป็นเครื่องพ่นหมอก ที่ละอองน้ำถูกสร้างขึ้นมีขนาดเท่าไอน้ำ ใช้ได้ผลดี ราคาไม่แพงด้วย แต่อย่าไปซื้อเป็นชุดที่เขาประกอบสำเร็จมาใช้น๊ะ เพราะราคาแพงมากเป็นหมื่น
4. หากคุณยังไม่เคยทำเห็ดเลย ใหม่ๆยังไม่มีประสบการณ์ ก็ควรซื้อก้อนเขามาซ้อมมือเสียก่อน เดี๋ยวนี้มีแหล่งจำหน่ายก้อนทั่วทุกหนทุกแห่งในประเทศไทย ให้คุณเลือกซื้อดู ไม่จำเป็นต้องซื้อจากเจ้าใดเจ้าหนึ่งแบบทุ่มสุดตัว ป้องกันตัวเองไว้บ้าง โดยการซื้อมาจากหลายๆราย เพราะแน่นอนแต่ละราย ก็ย่อมบอกว่า ของเขาดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว เมื่อคุณซ้อมมือ และมั่นใจในฝีมือและการตลาดของคุณแล้ว นั่นแหละควรทำก้อนใช้เองดีกว่าครับ
5. ได้สิ แต่ต้องจำไว้เสมอว่า ดอกเห้ดเกิดจากเส้นใยจำนวนมากที่แก่แล้วมารวมตัวกันเป็นดอก ดังนั้น หากคุณทำถุงเล็กๆ แล้วเปิดเพียงช่องเดียวหรือทางเดียว ก็จะได้ดอกเห็ดไม่กี่ดอก แต่ขนาดของดอกจะใหญ่ แต่หากคุณเปิดหลายๆจุด หรือเปิดล่อนจ้อนเลย ดอกเห็ดก็จะออกเยอะ แต่ดอกจะเล็ก อยู่ที่คุณต้องเลือกเอาเองละว่าจะเปิดแบบไหน แต่ที่เห็นต่างประเทศ ที่เขาเปิดหลายช่อง ก็แน่หละ เพราะเขาทำถุงใหญ่ จำนวนเชื้อเห็ดเยอะ หากคุณเปิดเพียงช่องเดียว คุณอาจจะได้ดอกเห็ดดอกเดี่ยวๆหนักเป็นกิโลก็ได้ พอคุณถามมาถึงตอนนี้ ดร.อานนท์ เคยกล่าวเสมอมาว่า ส่วนหนึ่งเป็นความผิดของท่าน ที่ทำการสอนเรื่องการเพาะเห็ดในถุงพลาสติกมาตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา ปัจจุบัน แม้ว่า เราจะทำการเพาะเห็ดกันอย่างกว้างขวางทั่วทั้งประเทศ แต่เทคนิคที่เราเพาะกันอยู่ ก็เป็นวิธีเดิมที่ไม่ได้มีการพัฒนากันเลย ขณะที่ต่างประเทศ เขาเริ่มหลังเรา เขาไปไกลกว่าเราชนิดไม่เห็นฝุ่นเลย เอาเฉพาะอย่างที่จีน ในปี 2000 โลกทั้งโลกผลิตเห็ดรวมกันไม่ถึง 10 ล้านตัน แต่ตอนนี้จีนอย่างเดียว ผลิตเห็ดได้มากกว่า 25 ล้านตันต่อปี ขณะที่เรายังนั่งยัดก้อนเล็กๆกันอยู่ ทั้งๆที่วัสดุเพาะเอย อุปกรณ์ และเชื้อเพลิงแห่ขึ้นราคาไปหลายเท่าตัวแล้ว แต่เราก็ยังใช้แต่ขี้เลื่อยยางพารา ผสมรำ ปูนขาว ดีเกลือ เป็นสูตรอมตะกันอยู่ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องพัฒนาให้ไปไกลกว่านี้ ไม่เช่นนั้น เมื่อเราเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ ประชาคมอาเซี่ยน เจ้าของฟาร์มเห็ดในไทย อาจจะต้องตกไปอยู่ในมือของคนเพื่อนบ้านก็ได้
6. ได้สิ ต้องทำแล้ว ไม่เช่นนั้น ในอนาคตตามคนอื่นไม่ทันแน่ แต่ก็ใช่ว่า จะไปเน้นที่อีแวปน๊ะ เน้นไปที่โน่นสิ วัสดุเพาะ วิธีการเพาะ การลดต้นทุนการผลิตทั้งเรื่องแรงงานและเชื้อเพลิง(ทุกวันนี้ เราทำฟาร์มเห็ดแบบเศรษฐี ใช้แรงงานมาก เชื้อเพลิงที่ใช้ เอาความร้อนไปใช้ครึ่งหรือไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือก็ออกไปตามข้างหม้อนึ่งไปเสียเป็นส่วนใหญ่ ต้นทุนการผลิตจึงอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก มันควรเลิกได้แล้วกํบการยึดมั่นถือมั่น ไม่เปลี่ยนไม่แปลงอะไรเลย ร้อยวันพันปี ก็ขี้เลื่อยยางพาราผสมรำ ปูนขาว และดีเกลือ
7.ตามธรรมชาติ เห็ดพวกนี้เกิดขึ้นตามต้นไม้ และต้องอาศัยเส้นใยจำนวนมาก จึงจะรวมตัวกันเป็นดกได้ หากเราทำก้อนให้หลวม เส้นใยจะเจริญเติบโตเร็ว ดอกเห้ดเกิดเร็ว แต่ผลผลิตต่ำ เพราะปริมาณเส้นใยมีน้อย ในทางตรงกันข้าม หากทำแน่นอเกินไป เชื้อเห็ดก็จะเจริญช้าหรือไม่เดินเลย ดังนั้น ควรจะแค่แน่นพอสมควรเท่านั้น
น่าจะช่วยให้คุณหายสงสัยไปไม่มากก็น้อย

ไผ่(คณะทำงานของอานนท์ไบโอเทค)  




เพาะเห็ดไม่ต้องใช้ถุง

[thepnanakon]

เรียนท่านอาจารย์ครับ
  ขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างสูงครับ คำตอบของท่านอาจารย์ ช่วยให้ผมมีแนวทางในการวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตเห็ดที่มีคุณภาพแนวใหม่ ได้อย่างมากครับ  ผมจะเก็บแนวทางนี้ไปพัฒนา การผลิตเห็ดแนวทางใหม่ๆ ตามคำชี้แนะของท่านอาจารย์ครับ และหากมีโอกาส ผมขออนุญาติไปอบรมการเพาะเห็ดแบบ ไม่ใช้ถุงด้วยนะครับ

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

[preecha chotklang]

เรียน อ.ดร.อานนท์ สวัสดีคุณไผ่และสมาชิกครับ
ขอแชร์ประสบการณ์การทำเห็ด ซึ่งปัจจุบันผมก็ทำดอกเห็ดขาย ประมาณวันละ 30-50 กก.ต่อวัน แนะนำว่าคุณควรจะมีโรงเรือนเห็ดสัก 4 - 5 โรง โรงละ 3,000 ก้อน เวลาเปิดดอกอย่าเปิดทั้งโรงพร้อมกัน หากโรงหนึ่งคุณทำแบบ 4 แผงต่อโรง ก็ควรเปิดดอก สัก 2 แผงก่อน แล้วอีก 3 วันค่อยเปิดอีก2แผงที่เหลือ เพราะหากเปิดพร้อมกันเวลาเห็ดออกดอกพร้อมกัน ตลาดอาจจะรับผลผลิตคุณไม่ได้ ผมเคยเปิดดอกให้ออกพรึบพร้อมกันเก็บได้เกือบ 200 กก. แต่ตลาดรับได้แค่50 กก.ต่อวัน ทำให้มีปัญหาไม่มีที่ส่ง ผมใช้ถุงยึดอายุใส่แล้วก็ไว้ในตู้แช่ ก็เก็บได้แค่2-3 วันเท่านั้น หากเก็บนานกว่านี้ดอกเห็ดจะเริ่มฉ่ำน้ำและมีกลิ่นไม่ค่อยดี  ในเรื่องการตลาดนั้นเมื่อคุณมีลูกค้าประจำแล้ว คุณต้องมีเห็ดให้เขาทุกวัน หากไม่มีคุณโดนด่าแน่ และอาจจะไม่ซื้อคุณอีกก็ได้ และควรติดต่อกลุ่มแม่บ้านที่แปรรูปเห็ดไว้ด้วย หากเรามีดอกเห็ดเยอะเกินไป เราก็สามารถไปส่งเขาได้ ซึ่งเราจะรับจำนวนมากๆด้วย แต่ราคาอาจต้องส่งถูกหน่อย ในการทำเห็ดนั้นไม่ใช่ว่าคุณจะคุมเขาได้ทุกอย่าง บางครั้งก็ไม่อยากออกดอกจนแทบไม่พอส่ง แต่บ้างทีก็ออกพรึบทั้งโรงจนเก็บแทบไม่ใหว อีกอย่างคุณควรมองตลาดนัดไว้ด้วย หากเห็ดออกเยอะก็เอาไปขายตลาดนัด ได้ราคาดีด้วย อาจได้ถึง 80 -100 บาท/กก. หากคุณต้องการทำดอกเห็ดส่งตลาดไท ถ้าคุณทำน้อย ๆ ไม่ควรสนใจเพราะแม่ค้าจะกดราคาคุณมาก ช่วงที่เห็ดมาก ราคาดอกเห็ดภูฎานจะเหลือแค่ 25-30 บาท/กก.เท่านั้น ถ้าเป็นช่วงเห็ดขาด ก็ได้ราคาแค่ 50-60 บาทเท่านั้น และตลาดนี้เขาต้องการเห็ดดอกอ่อน ดอกโตประมาณ เหรียญสิบบาทเท่านั้น

" />
" />
" />
" />
" />
" />
" />

[Pai_Anonworld]

อยากให้สมาชิกที่มีประสบการณ์อย่างคุณปรีชา เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในภาคสนามกันเยอะๆ หากเป็นไปได้ อยากให้คุณปรีชา เล่าถึงประสบการณ์ ทำการเพาะเห็ดในถุงใหญ่ หรือในตะกร้าอย่างคุณยอดรักบ้าง ไม่เช่นนั้น เราก็จะย่ำต๊อกอยู่แต่ถุงเล็ก แล้วเราก็ไม่ไปไหนอีกเลย ดูจากต่างประเทศที่เขาไปกว่าเรามาก เพราะค่าแรงเขาสูง อย่างที่เยอรมัน เขาเอาฟางมาแช่น้ำ ใส่พวกปูนขาวไป เพื่อไม่ให้มันเป็นกรดและด่าง รวมทั้งหินฟอสเฟต ปล่อยให้ฟางดูดความชื้น ขณะเดียวกันก็ปล่อยให้หมักให้ฟางนิ่มสัก 3-4 วัน แล้วเอาเข้าห้องอบฆ่าเชื้อที่ 72 องศาเซลเซียส 2-3 วัน(เขาทำทีเป็นพันๆตัน ) จากนั้นเอาออกมาใส่เชื้อเห็ดเข้าไปประมาณ 2% ประมาณ 20 วันก็เปิดดอกได้แล้ว เดี๋ยวนี้ที่ไหนๆเขาก็ทำกันอย่างนี้ ยกเว้นบ้านเรา

เฉพาะรายนี้ลงทุนไปประมาณ 12 ล้านดอลลาร์

เอาฟางมาเพิ่มความชื้น โดยแทบไม่ต้องใส่อาหารเสริมเลย ยิ่งเอาต้นกระถิน ต้นไมยราบยักษ์ ซังข้าวโพดผสมเข้าไปได้ยิ่งดีใหญ่เลย

เอาเข้าอบในห้องอบที่เรียกว่า Cook out or Peak heating room

อบแล้วเอาออกมาใส่เชื้อ

โรยเชื้อเข้าไปพร้อมบรรจุในถุงขนาดใหญ่ บรรจุปุ๋ยได้ประมาณ 40-50 กก.

จุดนี้สำคัญมาก ที่บ้านเราทำไม่สำเร็จ เพราะขณะบ่มอุณหภูมิจะสูง เปอร์เซ็นต์เสียจะสูง จะต้องปรับอุณหภูมิให้ไม่สูงนัก ด้วยการดูดเป่าอากาศรักษาหรือปรับอุณหภูมิให้ไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ทางที่ดีใช้พัดลมไอน้ำ หรือที่เรยกว่า อีแวป ซึ่งขณะนี้สมาชิกเราที่อยู่จันทบุรีทำได้แล้วราคาถูกมากๆ


นี่ไง เก็บดอกแต่ละกอหลายๆ กก. ถึงเวลาแล้ว ที่พวกเราต้องเปลี่ยนแปลงเสียที จึงอยากฝากสมาชิกทุกท่านว่า เปลี่ยนๆๆๆๆๆๆได้แล้ว

[yodrak992]

สิ่งนี้ที่ต้องการครับ อาจารย์ เพราะฟางที่บ้านมีเยอะมาก เขาเผาที้งกัน ถ้าจะขายดอกเห็ดจำนวนมาก จำนวนก้อนก็ต้องเยอะ ซึ้งใช้เวลาทำจุดนี้นานมาก และต้องใช้แรงงานเยอะด้วย คนเดียวก็ไม่ทันเต็มโรง ชุดแรกออกดอกก่อน แบบผม 555 ผมเริ่มมีทางออกแล้วครับ ขอบคุณครับสำหรับแนวทาง