เห็ดร่างแหกินแล้วจะปลอดภัยไหมคะ

[giffy]

สวัสดีค่ะ หนูทราบมาว่าเห็ดร่างแหไม่สามารถกินสดๆ ได้ ส่วนมากแล้วเค้าจะนำไปตากแห้งแล้วนำมาทำเป็นยาสมุนไพรกัน แต่ถ้าหนูนำเห็ดร่างแหที่ภูพานมานึ่งแล้วนำไปตากแห้งแล้วค่อยนำมาประกอบอาหาร หนูจะสามารถรับประทานได้ไหมคะ เมื่อกินแล้วเนี่ยจะมีอันตรายหรือเปล่าคะ ไอ้ตัวสารพิษที่มีในเห็ดร่างแหเนี่ยจะหายไปไหมคะ หรือมีวิธีการใดที่สามารถนำเห็ดร่างแหมาประกอบเป็นอาหารได้บ้างคะ ขอรบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

[anonmush]

ไม่ทราบว่าไปได้ข้อมูลคลาดเคลื่อนมาจากไหน นี่แหละบางที คนที่เขาไม่รู้ แล้วอวดรู้ แล้วดันไปตอบให้คนที่ไม่รู้ฟัง มันก็ยิ่งสับสนกันไปใหญ่ ผมคิดว่า คนไทยส่วนใหญ่เคยทานเห็ดร่างแหกันแทบทุกคน เพียงแต่เราไม่รู้ว่านั่นคือ เห็ดร่างแห พอพูดมาถึงตอนนี้แล้ว บางคนเถียงคอเป็นเอ็นว่า ไม่เคย อย่างไรก็ยืนยันนั่งยันว่า ไม่เคย เพราะไม่เคยนอกลู่นอกทางที่ไปกินของประหลาดๆ แต่พอถามว่า อ้าวแล้ว เคยทานเยื่อไผ่ตุ๋นไก่ ตุ๋นเป็ด ไหม ทุกคนส่วนใหญ่ บอกโอ้ย เยื่อไผ่นั้น มันเป็นอาหารที่มีราคาแพง เป็นยาบำรุงกำลัง และอร่อยด้วย หารู้ไม่ว่า เจ้าเยื่อไผ่ หรือเห็ดร่างแห ก็คือ สิ่งเดียวกันนั่นแหละ เยื่อไผ่ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่มาจากเอาเยื่อไผ่สายพันธุ์พิเศษมาปรุงอาหาร แต่เยื่อไผ่คือ เห็ดตระกูล Dictyophora ซึ่งส่วนใหญ่ที่นำมาทานกัน จะเป็นเห็ดเยื่อไผ่สายพันธุ์กระโปรงยาว Dictyophora duplicata เห็ดชนิดนี้ เป็นเห็ดที่เกิดขึ้นธรรมชาติ เขตอากาศร้อนชื้น เช่น ประเทศไทย มักเกิดตามป่าที่มีอินทรีย์วัตถุและความชื้นสูงๆ เช่น สวนยางพารา สวนผลไม้ สวนกล้วย สวนไผ่ เป็นต้น เห็ดชนิดนี้สามารถเพาะได้ง่าย เช่นเดียวกับการเพาะเห็ดฟางแบบกองสูง หรือกองเตี้ย แต่ต้องมีดินคลุม สามารถเพาะได้ตลอดทั้งปีในประเทศไทย เป็นสินค้าที่ตลาดโลกมีความต้องการสูงมาก เพราะส่วนใหญ่นำไปต้ม ตุ่๋น เป็นยาบำรุงเลือด บำรุงปอด เสริมกำลัง และเสริมสมรรถภาพทางเพศ ทำให้มีลูกง่าย โดยธรรมชาติแล้ว เห็ดชนิดนี้ จะมีส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อหุ้มหมวกดอก จะมีกลิ่นเหม็นคลุคลุ้งไปเป็นระยะทางไกล เพื่อเป็นกลิ่นดึงดูดแมลงให้มาตอม เพื่อนำพาสปอร์ของเห็ดกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ส่วนของเยื่อหุ้มหมวกดอกนี้แหละ หากทานเข้าไปจะเกิดอาการเมา ดังนั้น ก่อนที่จะนำเอาเห็ดนี้มาทาน ควรแกะเอาส่วนนี้ออกเสีย ก็สามารถเอามาทานได้ทั้งในรูปของเห็ดสดและเห็ดแห้ง ปัจจุบัน ประเทศจีน เป็นประเทศเดียวเท่านั้น ที่ผลิตเห็ดชนิดนี้มากกว่า 80,000 ตัน(เห็ดแห้ง, เห็ดสด 15 กก. ตากแห้งได้ 1 กก.) โดยจีนได้ส่งเห็ดชนิดนี้ มากกว่าครึ่งของปริมาณที่ผลิตได้ เพื่อเป็นสินค้าส่งออก ที่นำรายได้เข้าให้แก่จีนปีละหลายพันล้านบาท สำหรับประเทศไทยนั้น ทางศูนย์ไบโอเทค ได้ทำการเพาะหลายวิธีประสพผลสำเร็จมานานแล้ว แต่ทำการผลิตเพื่อเป็นยา เพื่อการส่งออกเท่านั้น โดยคาดว่าอีกไม่นาน จะเริ่มทำการส่งเสริมให้แก่สมาชิกเพาะ เพราะเราสามารถเพาะได้ตลอดทั้งปี ดีกว่าประเทศจีน ที่เพาะได้เฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น จึงขอย้ำคำตอบอีกที ว่า เห็ดร่างแหที่คุณเก็บมานั้น แม้ว่ามีหลายสายพันธุ์ มีกระโปรงหลายรูปแบบ และหลายสี แต่ส่วนใหญ่ทานได้ทั้งสดและแห้ง อีกไม่นานเกินรอ ทางศูนย์จะผลิตเห็ดเยื่อไผ่สดนำร่องตลาดในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ขอแนบรูป เห็ดร่างแหที่ทางศูนย์ผลิตอยู่มาให้ดูไปพลางๆก่อน