กราบขอ อภัยนาครับ ผมขอความรู้ "แอดแวนเคส" สารกำจัดแมลง ครับ

[kammasranger2014]

ผมต้องขอ อภัยอย่างสูง ที่เพิ่งสมัครสมาชิก แล้วก็ตั้งกระทู้ถามเลย (ผมมือใหม่ ป้ายแดงแจ๋ ในการเพาะเห็ด เลยครับ)
ผมขอรบกวน...ถามว่า..."สารกำจัดแมลง...แอดแวนเตส...อะซาดิแรกทิน" (ตามภาพ) มาร...อันตรายมากมั้ยครับ และสามารถฉีดที่หน้าก้อน ได้เลยไหมครับ?
กราบขอ อภัยและขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ (แล้วผมจะค่อยๆ ศึกษา หาข้อมูล ในที่นี้ ต่อไป...นาคร๊าบ :-)

[kammasranger2014]

[Pai_Anonworld]

ก่อนที่คุณจะเอาอะไรมาใช้กับเห็ดนั้น คุณควรจะทำความเข้าใจอย่างดีกับสิ่งนั้นๆเสียก่อน อย่างสาร อาซาดิแรซตินนั้น จริงๆแล้ว มันเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในเนื้อเมล็ดของผลสะเดาเท่านั้น โดยสารดังกล่าว ไม่ใช่สารฆ่าแมลง เพียงแต่เป็นสารที่ทำให้แมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่ของแมลง ไม่สามารถสารไคตินจากแคลเซี่ยมเพ็กเต็ดได้ ทำให้หนอนหรือตัวดักแด้ไม่ลอกคราบได้ เมื่อมันลอกคราบไม่ได้ มันก็จะตายไปในที่สุด ดังนั้น มันจึงไม่ใช่สารฆ่าแมลง แต่มันเพียงแต่ทำให้ประชากรของแมลงค่อยๆลดลง ทีนี้พอคุณรู้เช่นนี้แล้วว่า มันเป็นสารธรรมชาติ ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อคนต่อเห็ด แต่มันไม่ได้ฆ่าแมลง และมันมีอยู่ที่ผลของเมล็ดสะเดาเท่านั้น ทีนี้ เวลาคุณจะซื้อยาอะไรไปใช้ หากเขาบอกว่า เป็นยาฆ่าแมลงแล้วล่ะก่อ แสดงว่า มันไม่ได้ฆ่าแมลงโดยตรง หากมันมีความสามารถในการฆ่าแมลงได้แล้วล่ะก่อ แสดงว่า นั่นเชขาอาจจะเอายาฆ่าแมลงชนิดอื่นใส่เข้าไปด้วย เพราะจริงๆแล้ว การที่จะนำเอาเมล็ดสะเดามาในปริมาณมากๆนั้น ยากและราคาแพงมาก เดี๋ยวนี้ ผู้ผลิตสารสะเดาก็เพี้ยนกันไปเยอะ เพราะพอขายดี หาเมล็ดสะเดาไม่ได้ ก็เอาเปลือก เอาใบสะเดามาสกัดแทน แล้วก็เหมาว่ามันมีสารดังกล่าวด้วย โปรดระวังให้ดี ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณไปเอาขิง ข่า ตะไคร้ กระเพรา สาบเสือ กระเพราผี โล่ติ้น ยาสูบ(ใบมะกรูด มะนาว ไม่ต้อง เพราะนั่นเอาไว้ทำต้มยำเท่านั้น)มาหมักเอากลิ่นไม่พึงประสงค์ของแมลงมาใช้แทนจะดีกว่าและถูกกว่า หากต้องการเก็บให้ได้นานๆ ก็อาจจะเอาไปกลั่นเอาเฉพาะกลิ่นเอาไปใช้ก็จะดีกว่าเสียด้วยซ้ำ ซึ่งทางสถาบันอานนท์ไบโอเทคได้ทำขึ้นในนามสารไล่แมลง ที่ผ่านขบวนการกลั่นแล้ว เก็บได้นานหลายปี สารพวกนี้ สามารถฉีดเข้าไปที่หน้าก้อนได้โดยตรง

[kammasranger2014]

ก่อนที่คุณจะเอาอะไรมาใช้กับเห็ดนั้น คุณควรจะทำความเข้าใจอย่างดีกับสิ่งนั้นๆเสียก่อน อย่างสาร อาซาดิแรซตินนั้น จริงๆแล้ว มันเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในเนื้อเมล็ดของผลสะเดาเท่านั้น โดยสารดังกล่าว ไม่ใช่สารฆ่าแมลง เพียงแต่เป็นสารที่ทำให้แมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่ของแมลง ไม่สามารถสารไคตินจากแคลเซี่ยมเพ็กเต็ดได้ ทำให้หนอนหรือตัวดักแด้ไม่ลอกคราบได้ เมื่อมันลอกคราบไม่ได้ มันก็จะตายไปในที่สุด ดังนั้น มันจึงไม่ใช่สารฆ่าแมลง แต่มันเพียงแต่ทำให้ประชากรของแมลงค่อยๆลดลง ทีนี้พอคุณรู้เช่นนี้แล้วว่า มันเป็นสารธรรมชาติ ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อคนต่อเห็ด แต่มันไม่ได้ฆ่าแมลง และมันมีอยู่ที่ผลของเมล็ดสะเดาเท่านั้น ทีนี้ เวลาคุณจะซื้อยาอะไรไปใช้ หากเขาบอกว่า เป็นยาฆ่าแมลงแล้วล่ะก่อ แสดงว่า มันไม่ได้ฆ่าแมลงโดยตรง หากมันมีความสามารถในการฆ่าแมลงได้แล้วล่ะก่อ แสดงว่า นั่นเชขาอาจจะเอายาฆ่าแมลงชนิดอื่นใส่เข้าไปด้วย เพราะจริงๆแล้ว การที่จะนำเอาเมล็ดสะเดามาในปริมาณมากๆนั้น ยากและราคาแพงมาก เดี๋ยวนี้ ผู้ผลิตสารสะเดาก็เพี้ยนกันไปเยอะ เพราะพอขายดี หาเมล็ดสะเดาไม่ได้ ก็เอาเปลือก เอาใบสะเดามาสกัดแทน แล้วก็เหมาว่ามันมีสารดังกล่าวด้วย โปรดระวังให้ดี ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณไปเอาขิง ข่า ตะไคร้ กระเพรา สาบเสือ กระเพราผี โล่ติ้น ยาสูบ(ใบมะกรูด มะนาว ไม่ต้อง เพราะนั่นเอาไว้ทำต้มยำเท่านั้น)มาหมักเอากลิ่นไม่พึงประสงค์ของแมลงมาใช้แทนจะดีกว่าและถูกกว่า หากต้องการเก็บให้ได้นานๆ ก็อาจจะเอาไปกลั่นเอาเฉพาะกลิ่นเอาไปใช้ก็จะดีกว่าเสียด้วยซ้ำ ซึ่งทางสถาบันอานนท์ไบโอเทคได้ทำขึ้นในนามสารไล่แมลง ที่ผ่านขบวนการกลั่นแล้ว เก็บได้นานหลายปี สารพวกนี้ สามารถฉีดเข้าไปที่หน้าก้อนได้โดยตรง

ขอขอบพระคุณอย่างสูงเลยครับ ทำให้ผม...มั่นใจขึ้นเยอะเลยว่า...



ตรงลูกศร สีแดงนี้...ไม่น่าไว้ใจ...และไม่ควรใช้ จริงๆ ครับ
ขอบคุณครับ แล้วผมจะโทรฯ ไปซื้อของอาจารย์ ดีกว่าครับ