ทำก้อนเห็ดเยื่อไผ่ให้สวยได้แล้ว

[ton9532]

ผมนำเห็ดเยื่อไผ่มาฝังดิน แล้วให้น้ำไข่ก็ใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิมมากเลยครับ แล้วก็ให้ดอกสวยด้วย ตอนนี้ผมว่าสวยแล้ว ใครอยากลองกินเห็ดเยื่อไผ่สด มาที่โคราชนะครับ ตลาดย่าโมแผงเห็ดเจ๊แขก เรื่องราคาขอคิดต้นทุนก่อนนะครับ ผมอยากรู้ว่า ที่ฝังไปจะออกมาอีกใหม ถ้าออกมาอีกก็ดี ตอนนี้ก็ได้แต่รอ ผมฝังไป จุดละ 3 ก้อน ให้มากลุ่มละ 2-3 ลูกต่อกลุ่ม มีอยู่ 2 กลุ่มเอง ถ้าไม่มีอะไรผิดไปกับที่ตั้งใจไว้กับชุดที่ 2 ที่จะลงดินรอให้เดินเต็มดีดีก้อน เอาให้ชัว ก็ กุมภา มาได้เลย ได้ลองชิมแน่ ผมเอามาต้มน้ำแดง ก็อร้อยดีนะครับ ไข่ผมลองเอามาผัดสวนตัวผมไม่ชอบ มันมีกลิ่น นิดน่อย ไม่หอมเหมือนตอนเห็นดอกเลย แล้วช้วงเดินกุมภา เห็ดหัวลิงก็มีนะ ใครไม่เคยลองมานะ ไปวางแผงตอนไหนวันไหนจะบอกนะ หากใครสนมีข้อสงสัยยังไงอยากรู้เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องเห็ดๆทังหลาย เข้ามาคุยที่เฟรตนะ เดชภพ เขื่อนโพธิ์ จากประสบการ 38 ปีน่าจะได้แล้ว ของพี่ผมนะ ยังไงก็กราบสวัสดี อ.อานน ด้วยนะครับ พ่อผมฝากความคิดถึงมาด้วยครับ ไม่รู้จะจำได้ไหม พ่อผมชื้อ เติม ครับ

[Pai_Anonworld]

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีที่สามารถเพาะเห็ดเยื่อไผ่ได้เอง ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรดังที่คุณได้ทำนั้นถูกต้องและดีแล้ว เพราะเห็ดเยื่อไผ่เพาะได้ง่าย อาจจะง่ายกว่าเห็ดฟางเสียอีก เพาะได้ตลอดปี ในฤดูหนาวก็ใช้พันธุ์ดอกสีชมพู หน้าร้อนก็ใช้ดอกสีเทาก็เท่านั้น และมันจะออกดอกอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง จนกระทั่งอาหารหมด ดังนั้น มันอยู่ที่อาหารที่ใช้เพาะ ให้ใส่ไม้เข้าไปเยอะๆ เช่นไม้ไผ่ ใบไผ่มันชอบมาก ในอนาคตบ้านเราน่าจะเพาะเห็ดเยื่อไผ่เพียงพอต่อการบริโภค และน่าจะเป็นเห็ดที่มีศักยะสูงมากในการส่งออก เพราะตอนนี้ มีเฉพาะของจีนเท่านั้น แต่จีนกำลังเจอปัญหา เพราะเห็ดเยื่อไผ่ของจีนมีสารพิษตกค้างเยอะมาก ทั่วโลก ยกเว้นประเทศไทยเขาห้ามนำเข้า เพราะมีสารพิษเกินที่มนุษย์จะทานได้ แต่ไทยยังไม่ห้าม เพราะคนไทยยังกระเพาะเหล็กอยู่ งานพืชสวนโลกที่จะถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2554 ที่จะถึงนี้ ทางอานนท์ไบโอเทคก็จะเอาเห็ดเยื่อไผ่สีชมพูไปแสดง พร้อมทั้งเห็ดเป็นยาที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อนด้วย เช่น เห็ด Phellinus linteus, Cordyceps militaris, Agaricus blazei เป็นต้น และหากอุทยานเห็ดอานนท์เวิลด์เสร็จแล้ว ก็น่าจะเป็นสถานที่ที่ทำการเพาะเห็ดเยื่อไผ่เป็นหลัก และก็จะเปิดอบรมให้แก่ผู้สนใจไปพร้อมด้วย ต้องขอทำความเข้าใจด้วยในกระทู้ที่ผ่านมาที่ไม่ได้เข้าตอบ เพราะโดยวัตถุประสงค์แล้ว เวปนี้ เราตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นที่พึ่งแก่สมาชิก ดังจะเห็นได้จากส่วนใหญ่จะมีสมาชิกเข้ามาสอบถามข้อข้องใจและปัญหาเกี่ยวกับเห็ด ส่วนผู้มาเยือนส่วนใหญ่ก็ตอบมาโดยตลอด ยกเว้นน้อยนัก ที่มักจะถามสั้นๆ โดยอยากจะรู้ละเอียดมากๆ และที่สำคัญบางคนมาแบบนิรนาม แล้วก็พยายามถามในสิ่งที่เป็นความรู้ที่บางอย่างมันไม่ได้มาง่ายๆเลย ต้องใช้ทั้งเวลาและปัจจัยอื่นๆอีกมากมายกว่าจะค้นคว้าวิจัยออกมา จึงมีความรู้สึกว่า มันไม่ค่อยเป็นธรรมเลยที่อยู่ๆ ก็มีการตั้งคำถามมาแบบลอยๆ โดยไม่ทราบว่าผู้ถามเป็นใคร และส่วนใหญ่ก็มักจะเข้ามาลองภูมิมากกว่าที่จะอยากรู้ เราจึงไม่เข้าไปตอบ แต่วันนี้พอรู้ว่าเป็นใคร ยิ่งรู้ว่าลูกของคุณเติม ที่มีประสบการณ์เรื่องเห็ดมานานกว่า 38 ปี ซึ่งมากกว่า ดร.อานนท์เสียอีกนั้น เป็นเรื่องน่าสนใจ เรื่องนี้ จึงได้รีบปรึกษากับ ดร.อานนท์ว่า รู้จักคุณเติมคนที่ทำเห็ดนานถึง 38 ปีไหม ท่านบอกว่า ไม่รู้จักคนชื่อเติมที่ทำเห็ดนานถึง 38 ปี แต่ท่านรู้จักคุณหลี หรือที่ท่านเรียกว่าเฮียหลี เมียของเฮียหลีชื่อ พี่น้อย หากเป็นคนๆนี้ท่านรู้จักดี เพราะหากเป็นเฮียหลีแล้ว ก็ไม่น่าจะทำเห็ดมานานถึง 38 ปี เพราะ หาก 38 ปี นั่นแสดงว่า แกทำเห็ดมาตั้งแต่ปี 2514 แล้ว ในปีนั้น ดร.อานนท์ ยังอยู่ มศ.5 ที่โรงเรียนพิริยาลัย จังหวัดแพร่ื อยู่ ดร.อานนท์ได้เข้าร่วมก่อตั้งชมรมเห็ด ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปลายปี 2515 และเข้าเต็มตัวในปี 2516 แต่พอรับราชการอยู่ที่สาขาจุลชีววิทยาประยุกต์ กรมวิชาการเกษตร ดูเหมือนจะปี 2519 หรือ 2520 มีชายหนุ่มคนหนึ่ง พูดจาโขมงโฉงเฉงมาหา เพื่อปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับเห็ด และก็ทราบว่า กำลังเพาะเห็ดเป๋าฮื้ออยู่ที่กระทุ่มแบนกับเพื่อน แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล คุยไปคุยมา จึงได้ชื่อแกคือ เฮียหลี แต่พอรู้ว่าแกอยากรู้เรื่องเห็ด ก็ได้ให้ความรู้เรื่องเห็ดเบื้องต้นให้แก เพราะแกบอกว่า แกทำเห็ดกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่เปิดเผยเรื่องการทำเชื้อ แล้วเห็ดเป๋าฮื้อที่ทำก็ไม่ค่อยได้ผล จึงเลยพาแกไปที่เชียงใหม่ ไปหาเกษตรกรผู้เพาะเห็ดเป๋าฮื้ออยู่ที่บ้านแม่โจ้ ชื่อ นายทองหยด บริบูรณ์ เป็นอดีตผู้จัดการฟาร์มของบริษัทอาหารสากล ลำปาง ซึ่งบริษัทนี้ เขาเพาะเห็ดเป๋าฮื้อเพื่อบรรจุกระป๋อง แต่เขาไปเปิดเผย แม้แต่คุณทองหยดเป็นผู้จัดการไร่ ก็ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปเรียนรู้ คุณทองหยดจึงได้เข้ารับการอบรมเห็ดจาก ดร.อานนท์ ที่ ดร.อานนท์สมัยนั้น เป็นประธานชมรมเห็ด ได้ยกคณะกรรมการไปเปิดอบรมเห็ดที่โรงเรียนบุญวาทย์ และคุณทองหยดก็ได้ชักชวนผู้ที่ผ่านการอบรมไปช่วยทำ อันมีคุณสัมฤทธิ์ อัคระปะชะ เป็นหัวหน้า นายสมศักดิ์ คำหล้า นายวิจิตร และนายไสว ไปเช่าที่อยู่ที่ บ้านแม่โจ้ ได้ผลดีมาก จากจุดนี้เอง ที่ทำให้วงการเห็ดโด่งดังขึ้นอย่างมาก แล้วมีมากมายหลายคนก็ไปเป็นลูกศิษย์ของคุณทองหยด รวมทั้งคุณสาธิต เจ้าของฟาร์มเห็ดอรัญญิกก็เป็นศิษย์ของคุณทองหยด เช่นเดียวกัน ดร.อานนท์ก็พาเฮียหลีไปดูงานของคุณทองหยดจนกระทั่งได้มาปรับปรุงฟาร์ม จากนั้นก็เดินทางไปๆมาๆเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันและเพื่อช่วยให้เฮียหลีทำเชื้อเห็ดบริสุทธิ์ได้เอง จนกระทั่งปีกกล้าขาแข็งแล้ว แกก็ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญให้แก่คุณสุธี แซ่ลี้ และก็อีกหลายต่อหลายราย ส่วนเพื่อนของเฮียหลีนั้น มาทราบภายหลังก็คือ คุณพีรพล ที่เป็นนิสิตรุ่นเดียวกับ ดร.อานนท์ เพียงแต่เรียนไม่จบ เพราะถูกรีไทด์ไปก่อน ดังนั้น หากเป็นเฮียหลีแล้ว ดร.อานนท์กล่าวว่ารู้จักกันดี และก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และทุกครั้งที่มีการอบรมเห็ดถุง ดร.อานนท์ก็จะมีรูปของเฮียหลี ที่เป็นคนคิดค้นวิธีการทำชั้นวางก้อนตัวเอเป็นคนแรก และท่านก็ให้เกียรติเฮียหลีและระลึกถึงแกมาตลอดตราบทุกวันนี้ ดังนั้น ว่าไปจริงๆแล้ว เฮียหลีน่าจะเป็นลูกศิษย์ของคุณพีรพลหรือ คุณทองหยดมากกว่า ส่วน ดร.อานนท์นั้น หากจะเทียบความเป็นครูแก่เฮียหลี ก็คงแค่เป็นครูอนุบาลเท่านั้น เพราะด้วยความหวังดี ที่อยากจะให้เฮียหลีได้ไปเห็นของจริง โดยไม่จำเป็นต้องมาอบรมเริ่มต้นใหม่ที่กรม เลยนัดแนะแกไป ณ แหล่งที่เขาทำเห็ดกันจริงๆเลย แต่ฟาร์มเห็ดที่เฮียหลีไปนั้นก็คือ ลูกศิษย์ของ ดร.อานนท์ หรือแม้แต่คุณพีรพล ที่น่าจะเป็นคนแรก ที่ทำให้เฮียหลีรู้เรื่องเห็ด ก่อนที่เฮียหลีรู้จักกับ อ.ดีพร้อม ซึ่งคุณพีรพลก็เป็นคนที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมของชมรมเห็ดที่ ดร.อานนท์เป็นประธานชมรมอยู่เมื่อครั้งที่แกเป็นนิสิตก่อนที่จะถูกรีไทด์ ทราบเหมือนกันว่า ชื่อจริงของเฮียหลีก็คือ เติม ทรัพย์โภคี แต่ก็ไม่ทราบว่า เป็นคนเดียวกันหรือไม่ เพราะเทียบเวลาเรื่องของประสบการณ์แล้ว มันต่างกัน ช่วงนั้น ในปี 2514นั้น แม้กระทั่ง อ.ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ(ท่านล่วงลับไปแล้ว) ก็เป็นเพียงอาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา และก็เขียนตำราจุลชีววิทยาเท่านั้น ช่วงนั้น ยังไม่มีใครทำเห็ดที่ ดร.อานนท์รู้จักเลย ยกเว้นบริษัทอาหารสากล และบริษัทไทยแลนด์ซักแห้ง ที่เพาะเห็ดฟางในโรงเรือนที่ราษฎร์บูรณะ เพื่อส่งฮ่องกงเท่านั้น เลยไม่ทราบว่า คุณเติมทำเห็ดปี 2514 ที่ไหน ก็ขอความรู้เพิ่มเติมด้วย เพื่อจะได้บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ต่อไป เพราะปัจจุบันมีน้อยมากที่คนไทยจะรู้เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ หรือจะพอมีบ้าง แต่ก็เป็นการรู้ประวัติศาสตร์ที่แทบไม่มีพื้นฐานของความเป็นจริง ดูง่ายๆแค่สมาคมนักวิจัยและเพาะเห็ดแห่งประเทศไทย ที่มีประวัติอันยาวนาน ที่ ดร.อานนท์ได้เพียรพยามตั้งขึ้นมาตั้งแต่เข้าอยู่ในวงการเห็ดใหม่ๆ โดยพยายามตั้งชมรมเห็ดตามภูมิภาคต่างๆ พอไปสอนที่ลำปาง เชียงใหม่ ก็ตั้งชมรมเห็ดภาคเหนือขึ้นที่จังหวัดลำปาง เมื่อปี 2517 โดยมีคุณนิเวศน์ เป็นประธาน ป้าพยอม สุขวัลย์เป็นรองประธาน ในปีเดียวกันไปอบรมที่วิทยาลัยครูอุดร ก็ตั้งชมรมเห็ดภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น โดยมีคุณจิตต์ ภักดี เป็นประธาน ที่ภาคใต้ก็ตั้งชมรมเห็ดภาคใต้ โดยมีคุณชิต ตุลยวณิชย์ เป็นประธาน ในปีต่อมาตั้งชมรมเห็ดแห่งประเทศไทยขึ้น โดยมีคุณเอี่ยม กนิษฐกะ เป็นประธาน ในปี 2518 ในปี 2519 ได้ตั้งสมาคมนักวิจัยและเพาะเห็ดแห่งประเทศไทยขึ้น สำเร็จเมื่อปี 2520 โดย พล.ต.ต นพ. ชูชาติ อุตตโรทัย หนึ่งในผู้เข้ารับการอบรมเห้ดกับ ดร.อานนท์ ที่กรมวิชาการเกษตร รุ่นที่ 2 เป็นคนช่วยวิ่งเรื่องก่อตั้งจนสำเร็จ โดย ดร.อานนท์ มีข้อแม้ว่า หากตั้งสมาคมได้ ขอให้เชิญ ดร.ฤกษ์ ศยามานนท์ มาเป็นนายกสมาคม และก็ได้สมใจ แล้วเป็นไง ในปี 2524 ดร.อานนท์ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญเห็ดให้แก่องค์การสหประชาชาติ จนถึงปี 2548 แล้วลองไปดูประวัติของสมาคมสิ มีแต่กล่าวว่าถูกตั้งขึ้นปี 2520 เท่านั้น เรื่องอย่างนี้ ดร.อานนท์บอกว่า เฮียหลีคงรู้ดี เพราะระยะแรกๆตอนที่มีการตั้งสมาคม ก็เชิญเฮียหลีเข้ามามีส่วนร่วมบ้างเป็นบางครั้ง แต่หลังจากเจอเฮียหลีและพี่น้อยครั้งสุดท้ายที่ฟาร์มเห็ด ที่เป็นฟาร์มเก่าที่เคยเพาะเห็ดฟาง อยู่แถวหน้าวัด(จำชื่อไม่ได้)ก่อนที่จะถึงสามแยกเลี้ยวไปอำเภอกระทุ่มแบน แล้วก็เจอลูกชายแกยังเล็กอยู่เลย ในวันที่ 25 มิถุนายน 2524 ซึ่งเป็นวันแต่งงานของ ดร.อานนท์กับ อ.เยาวนุช ที่สโมสรทหารสนามเป้า เฮียหลีก็ให้เกียรติมาร่วมงาน ใส่ชุดพระราชทานสีทองอยู่กับกลุ่มคุณเกื้อศักดิ์ เจ้าของฟาร์มเห็ดสยาม(วันหลังจะส่งรูปมาให้ดู)จากนั้นก็ไม่เจอกันอีกเลย มาทราบข่าวอยู่บ้างว่า ไปทำฟาร์มเห็ดอยู่ที่โคราช ที่เท้าความมาทั้งหมด เป็นการเล่าให้ฟังตามบันทึกความจำของ ดร.อานนท์

คณะกรรมการชมรมเห็ด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ขณะนั้นยังเป็นนิสิตของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อยู่และดำรงตำแหน่งเป็นประธานชมรมเห็ด ในปี 2517 ได้ไปเปิดอบรมเห็ดตามภูมิภาคต่างๆ นับว่าเป็นโครงการแรกของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีการนำเอาวิทยาการออกไปสู่ส่วนภูมิภาค จนกระทั่ง ดร.อานนท์ ได้รับรางวัลเป็นกรณีพิเศษจาก จากท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คือ ดร.สุธรรม อารีกุล ในปี 2518 ที่ถือเป็นโครงการแรกของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เมื่อครั้งได้รับรางวัลดีเด่นเป้นกรณีพิเศษจาก ศ. ดร.สุธรรม อารีกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สมัยนั้นมอบให้ ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ในการเป็นผู้ริเริ่มโครงการเปิดอบรมทางวิชาการสู่ภูมิภาค เป็นครั้งแรกของมหาวิทยาลัย และยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติคุณจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ แห่งประเทศไทย พร้อมกับ ศ. ดร.อมร ภูมิรัตน ในกรณีเดียวกัน

นี่คือภาพเฮียหลีหรือคุณเติม ทรัพย์โภคี ที่ ดร.อานนท์ รู้จัก เมื่อประมาณปี 2519 เป็นต้นมา หากเป็นคุณเติม เขื่อนโพธิ์ ที่เพาะเห็ดมาตั้งแต่ปี 2514 หรือ 38 ปีแล้วล่ะก็ ไม่รู้จัก โดยภาพนี้ เป็นภาพประวัติศาสตร์ ที่ ดร.อานนท์ ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการอบรมเห็ดทั้งในไทยและทั่วโลก โดยย้ำและเน้นว่า คนที่อยู่ในรูปนี้ เป็นผู้ริเริ่มทำชั้นวางก้อนเชื้อแบบตัวเอ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน ดร.อานนท์จึงขอฝากไว้ว่า อะไรที่น่าจะเป็นประวัติศาสตร์นั้น ต้องเอาความจริงมาพูด เวลาอย่าให้คลาดเคลื่อน ความรู้ไปเอาจากใครที่ไหน เริ่มต้นเมื่อไหร่ ทำอะไรกับใคร ที่เป็นความจริง ก็ควรเอามาตีแผ่เพื่อลูกเพื่อหลานหรืออนุชนรุ่นหลังจะได้รับรู้ จะทำให้สังคมไทยเท่าเทียมกับนานาอารยประเทศเขา ที่เขารู้จักให้เกียรติผู้อื่น ให้เกียรตินักวิชาการ ให้เกียรติผู้ริเริ่มหรือมีแนวคิดที่ดี เช่น เฮียหลีที่ถือว่าเป็นผู้อาวุโสในวงการเห็ดไทยคนหนึ่ง

[Pai_Anonworld]

คุณสุทิน แก้วมาก หนึ่งในผู้เข้ารับการอบรมเห็ดรุ่นที่ 3 ของกรมวิชาการเกษตร ปี 2519 เป็นผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมด้วยคนหนึ่ง โดยก่อนตั้ง ได้มีการประชุมกันที่กำแพงแสน ร้านอาหารดีพร้อม ที่อยู่ใกล้บ้านคุณสุทิน ที่ตกลงเห็นด้วยกับ พลต.ต นพ. ชูชาติ อุตตโรทัย ที่ตั้งใจจะเป็นผู้ผลักดันการตั้งสมาคม และจะเชิญ ดร.ฤกษ์ ศยามานนท์มาเป็นนายก และคุณสุทินพร้อมทั้ง ดร.อานนท์ ก็ได้ไปเยี่ยมคุณหลีที่กระทุ่มแบนหลายครั้ง ตอนนี้คุณสุทิน เป็นประธาน อบต.อยู่ที่ตำบลบ้านกรวด บุรีรัมย์ เพราะไปซื้อที่ทำสวนตัวอย่างที่นั่น เป็นเกษตรกรตัวอย่าง และเป็นผู้นำเกษตรกรการปลูกปาล์มน้ำมัน เป็นผู้ส่งเสริมและค้าดอกดาวเรืองรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยตั้งแต่ก่อนปี 2515 แล้ว

คุณสุทินนั่งอยู่คนที่สาม หันหน้าตรงข้ามเฮียหลี ดังนั้น เฮียหลีคงจำได้

[ton9532]

ว่างๆก็มาเล่นนะครับ อยู่ที่โคราช เรื่องปี่นั้น ทำมาตั้งแต่ปี 2517 จริง ลอง ลบ กันดูดิครับ ว่าได้เท่าไร 2517 - 2554 ก็ได้ 37 ปีแล้ว ก็อีกไม่กี่วันก็ 38 แล้วครับ

[ton9532]

2514-2554 เท่ากับ 40 ปี ที่คุณหลี ทำ 2517-2554 เท่ากับ 37 ปี เหลือไม่กีวันกี่จะสิ้นปี พ.ศ. แล้วครับ...
ไม่น่าจะคำนวณผิดน่า.....า
ขอรบกวน..ถามหน่อยครับ จะขายเห็ดเยื้อไผ่สดราคาเท่าไหรดีครับ และไข่ด้วยครับ...ขอบคุณครับ
จะได้ไม่เสียราคาเห็ด..ขอบคุณครับ

[Pai_Anonworld]

โดยปกติ หากเป็นเยื่อไผ่กระโปรงยาว ปลอกหุ้มสีชมพู ราคาที่ทางอานนท์ไบโอเทคขาย ดอกใหญ่ขนาด ต่ำกว่า 8 ดอก ต่อ กก. ราคา กก.ละ 600 บาท ขนาดดอก12 ดอก ต่อ กก. ราคา 500 บาท เล็กกว่านั้นราคา 400 บาท ส่วนพันธุ์กระโปรงยาว รูห่าง ดอกขนาด 10 ดอก ต่อ กก.ราคา 450 บาท ดอกขนาด 15 ดอกต่อ กก.ราคา 350 บาท เล็กกว่านั้น 300 บาท ส่วนราคาเชื้อเห็ดขนาดน้ำหนัก 250 กรัมราคา 60 บาท นี่คือ ราคาที่อานนท์ไบโอเทคขายให้แก่ร้านอาหารจีนแถวทรงวาด เป็นลักษณะเหมาขาด มีเท่าไหร่เหมาหมด เพื่อนำไปปรุงขายให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมทานเห็ดเยื่อไผ่สด โดยทานดอกที่ยังตูมอยู่ เพราะมีฤทธิ์หรือสรรพคุณเป็นยาโป้วสูง หากบานแล้ว หมวกดอกจะมีกลิ่นคาว เวลานำไปรับประทาน ควรแกะเอาหมวกออก แต่ตรงหมวก คือ สุดยอดของยาวโป้ว แต่ต้องนำเอาไปสลายด้วยเอ็นไซม์ด้วยการเอาไปหมักหรือดองเหล้าเสียก่อน จึงจะมีสรรพคุณที่ดี อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว เห็ดเยื่อไผ่ ถือว่าเป็นยาทุกส่วนที่ถือว่าสุดยอดมากทางด้านสร้างเซลประสาท อันเนื่องจากสาร Dictyophorine A and B และสาร Sesquiterpene ดังนั้น คนที่เป็นอัมพฤก หรืออัมพาต หรือมีอาการสมองเสื่อม คำจำเสื่อมจึงเหมาะอย่างยิ่ง ปัจจุบันประเทศจีนมีเศรษฐกิจดีขึ้นมา ความต้องการเห้ดเยื่อไผ่สดมีสูงมาก ราคาเห้ดเยื่อไผ่สดสูงกว่าเมืองไทยมา เฉพาะเมืองกวางโจวราคาสูงกว่าเมืองไทยเกือบเท่าตัว และที่จีนเพาะได้เฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น ส่วนไทยเพาะได้ทั้งปี ดร.อานนท์ฝากบอกมาว่า เชื่อมือเฮียหลี(ผมต้องเรียกว่า ลุงหลี) ว่าน่าจะทำเห็ดชนิดนี้ได้ดี เพราะมันสามารถเพาะได้เป็นอย่างดีในเมืองไทยตลอดทั้งปีอยู่แล้ว หากทำได้ดีก็ขอให้แจ้งมา เพราะยังมีความต้องการอยู่เยอะ ยังมีหลายคนที่ต้องการ เพราะมันไม่เพียงแต่ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลประสาทเท่านั้น สาร Polyphenol เป็นสารสำคัญในการต่อต้านอิสระ และ สาร T-5-N(B-D-glucan) ที่มี bond จับกันแบบ alpha-1-3 and 1-6 linked D-mannopyranosyl residues ซึ่งมีผลช่วยยับยั้งเซลมะเร็งหลายชนิด เอาเลย ลุยเลยครับ วันนี้ผมและคณะของ ดร.อานนท์ กำลังเดินทางไปเชียงใหม่ เพื่อไปเตรียมจัดงานพืชสวนโลก และงานประชุมสมาคมเห็ด โดยจะเอาเห็ดเยื่อไผ่สดๆสีชมพูไปแสดงด้วย

[tat_gun]

เคยไปซื้อไข่เห็ดเยื่อไผ่ของอาจารย์ ตอนเปิดงานที่เซ็นทรัลรามอินทราน่ะครับ แล้วพอมันงอกออกมาก็เอามาทำซุปกับลองผัดกินอร่อยดีครับ แต่ว่าเอามาผัดดูไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ต้มดีมากครับ

เลยอยากรู้ว่าร้านอาหารแถวทรงวาดคือร้านไหนหรอครับ จะตามไปกิน
ถ้าวันหลังผมไปเดินเล่นแถวนั้นจะได้แวะเข้าไป

ขอบคุณมากครับ
ธัชพงศ์